16 พฤษภาคม 2538
งบการเงิน 31 มีนาคม 2538
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
(เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด)
-----------------------------------------------------------------
งบการเงินระหว่างกาล
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537
และ
รายงานของผู้สอบบัญชี
-----------------------------------------------------------------
รายงานของผู้สอบบัญชี
เสนอ คณะกรรมการบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
(เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด)
ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537 และงบกำไรขาดทุน
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
(เดิมชื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด) ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชี
รับอนุญาตแห่งประเทศไทย
การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลนี้ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ
ระบบในการจัดทำงบการเงิน การใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินและการ
สอบถามเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทางการเงินและบัญชี ซึ่งการสอบทานนี้มีขอบเขตจำกัด
กว่าการตรวจสอบมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไปเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้น
ข้าพเจ้าไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินที่สอบทานได้
ข้าพเจ้าไม่พบสิ่งที่สาระสำคัญซึ่งควรนำมาปรับปรุงงบการเงินระหว่างกาลนี้ให้เป็นไปตาม
หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปจากการสอบทานของข้าพเจ้าดังกล่าวข้างต้น
(นายไพฑูรย์ ทวีผล)
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
ทะเบียนเลขที่ 3035
กรุงเทพมหานคร
21 เมษายน 2538
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
(เดิมชื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด)
งบดุล
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537
สิ น ท รั พ ย์
พันบาท
2538 2537
สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินสดในมือและเงินฝากธนาคาร 10,189 24,874
เงินลงทุนระยะสั้น 236,000 30,000
ลูกหนี้การค้า 11,782 16,343
ลูกหนี้ค่าตอบแทนการเช่าระยะยาว 469,696 6,825
ลูกหนี้และเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อยและ
บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 461,247 118,583
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 96,287 48,746
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 1,285,201 245,371
เงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 52,529 45,000
เงินลงทุนในหุ้นทุนในบริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
(หมายเหตุ 3) 884,197 672,341
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - ราคาทุนสุทธิจากค่าเสื่อมราคาสะสม 2,789,607 1,957,858
สินทรัพย์อื่น
สิทธิการเช่า - สุทธิ 532,577 510,025
เงินค้ำประกันเพื่อสิทธิการเช่า 240,555 196,730
สินทรัพย์อื่น - สุทธิ 60,632 30,066
รวมสินทรัพย์อื่น 833,764 736,821
รวมสินทรัพย์ 5,845,298 3,657,391
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
(เดิมชื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด)
งบดุล
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
พันบาท
2538 2537
หนี้สินหมุนเวียน
เงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร 32,558 31,467
เงินกู้ยืมระยะสั้น 50,000 190,000
เจ้าหนี้ค่าก่อสร้าง 77,601 86,495
เจ้าหนี้ค่าที่ดิน - 151,666
เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี 372,696 302,722
ภาษีเงินได้ค้างจ่าย 70,130 51,536
เงินปันผลค้างจ่าย 110,000 -
เงินค้ำประกันสิทธิการเช่า 32,517 509,058
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 124,106 105,204
รวมหนี้สินหมุนเวียน 869,608 1,428,148
เงินกู้ยืมระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี 393,400 408,547
เงินมัดจำจากลูกค้า 308,564 208,471
รายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้า - สุทธิ 1,556,389 458,268
รวมหนี้สิน 3,127,961 2,503,434
ส่วนของผู้ถือหุ้น 2,717,337 1,153,957
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 5,845,298 3,657,391
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
(เดิมชื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด)
งบกำไรขาดทุน
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537
พันบาท
2538 2537
รายได้
รายได้ค่าเช่าและบริการ 226,075 173,271
ส่วนแบ่งในผลกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนในบริษัทย่อย 6,430 (4,772)
รายได้อื่น 38,831 6,364
รวมรายได้ 271,336 174,863
ต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ต้นทุนการเช่าและบริการ 70,830 61,815
ค่าใช้จ่ายอื่น 58,695 30,576
ภาษีเงินได้ 41,641 27,302
รวมต้นทุนและค่าใช้จ่าย 171,166 119,693
กำไรสุทธิ 100,170 55,170
กำไรต่อหุ้น (บาท) 1.00 1.49
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
(เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด)
หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537
1. รายการบัญชีกับบริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
บริษัทมีรายการบัญชีส่วนหนึ่งเกิดขึ้นกับบริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน บริษัทเหล่านี้
เกี่ยวข้องกันโดยมีผู้ถือหุ้น และ/หรือ กรรมการร่วมกัน ผลของรายการดังกล่าวได้แสดงไว้ใน
งบการเงินระหว่างกาลที่ตกลงร่วมกันโดยกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
2. การแปรสภาพบริษัท/เปลี่ยนชื่อบริษัท/การเพิ่มทุนจดทะเบียน
ในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2537 ครั้งที่ 2/2537 และการประชุมสามัญ
ผู้ถือหุ้น 1/2537 ผุ้ถือหุ้นได้มีมติให้แปรสภาพบริษัทเป็นบริษัทมหาชน จำกัด เปลี่ยนชื่อบริษัท
เป็น บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 370
ล้านบาท (แบ่งเป็น 37 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) เป็น 1,000 ล้านบาท (แบ่งเป็น 100
ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 48 ล้านหุ้น และ
ขายให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 15 ล้านหุ้น การจำหน่ายครั้งนี้ก่อให้เกิดส่วนเกินมูลค่าหุ้น
จำนวน 1,185 ล้านบาท การแปรสภาพบริษัท การเปลี่ยนชื่อบริษัทและการเพิ่มทุนจดทะเบียน
ได้จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2537
3. การเปลี่ยนแปลงทางการบัญชี
เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องแนวทางการ
ปฏิบัติเกี่ยวกับข้อกำหนดในการดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียน บริษัทจึงเปลี่ยนแปลงวิธีการ
บันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อยจากวิธีราคาทุนเป็นวิธีส่วนได้เสียในไตรมาสที่ 4 ของปี 2537
ในการนี้บริษัทคำนวณมูลค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อยตามวิธีส่วนได้เสีย ย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ได้ซื้อ
เงินลงทุนนั้นมาจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2536 แล้วปรับปรุงส่วนได้เสียดังกล่าวกับกำไรสะสมที่ยัง
ไม่ได้จัดสรรต้นปีด้วยผลขาดทุนสะสมจากส่วนได้เสียเป็นเงินประมาณ 2.6 ล้านบาท ส่วนแบ่งใน
ผลกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนในบริษัทย่อยสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2538
และ 2537 แสดงเป็นรายการแยกต่างหากในงบกำไรขาดทุน
- 2 -
การเปลี่ยนแปลงวิธีการบัญชีจากวิธีราคาทุนเป็นวิธีส่วนได้เสียดังกล่าวข้างต้นเป็นผลให้
งบการเงินระหว่างกาลของปี 2537 ที่แสดงไว้ในที่นี้เพื่อการเปรียบเทียบแตกต่างไปจากที่เคย
แสดงไว้ในปีก่อน
สำหรับเงินลงทุนในหุ้นทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกันซึ่งบริษัทถือหุ้นไว้และมีสัดส่วนการลง
ทุนต่ำกว่าร้อยละ 20 บันทึกตามวิธีราคาทุน
4. สัญญา
4.1 สัญญาเช่าระยะยาว
บริษัทมีสัญญาเช่าที่ดิน 3 ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่งและกลุ่มบุคคล
เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญาเช่าทั้ง 3 ฉบับมีอายุสามสิบปี และสามารถต่อ
อายุต่อไปได้อีกโดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 1 ปีก่อนครบอายุการเช่า
ตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าและเงินค้ำประกันการเช่าเป็นเงิน
รวมประมาณ 594 ล้านบาท และ 300 ล้านบาท ตามลำดับและบริษัทจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า
เป็นเงินประมาณ 533 ล้านบาท และ 510 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ
2537 ตามลำดับและจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงินรวมประมาณ 103 ล้านบาท
และ 135 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537 ตามลำดับ
บริษัทมีสัญญาเช่าช่วงที่ดิน 1 ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่งเพื่อดำเนิน
การก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญานี้มีอายุ 21 ปี 6 เดือน ตามเงื่อนไขของสัญญาบริษัทจะ
ต้องจ่ายเงินค้ำประกันการเช่าเป็นเงินประมาณ 62 ล้านบาท และค่าเช่าเป็นรายเดือนตาม
อัตราที่ระบุในสัญญาปีละประมาณ 2 ล้านถึง 10 ล้านบาท
บริษัทมีสัญญาจองเพื่อเช่าช่วงพื้นที่ภายในอาคารศูนย์การค้า 1 ฉบับ กับบริษัท
ที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่งสัญญานี้มีอายุ 30 ปี และสามารถต่ออายุต่อไปได้อีก ตามเงื่อนไข
ของสัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าและเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงินประมาณ
109 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 บริษัทจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงิน
ประมาณ 76 ล้านบาท
- 3 -
4.2 สัญญาต่างตอบแทน
ตามเงื่อนไขของสัญญาระหว่างบริษัทกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง บริษัทได้
รับสิทธิก่อสร้างอาคารบนที่ดินที่เช่าโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องกันนั้น และดำเนินการหาผล
ประโยชน์จากอาคารดังกล่าวจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2551 สัญญานี้อายุต่ออายุได้อีกครั้ง
ละ 10 ปี
บริษัทต้องชำระค่าตอบแทนเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 96,272,000 บาท โดยแบ่ง
ชำระเป็นงวดต่าง ๆ จนถึง พ.ศ. 2551 บริษัทมีนโยบายบันทึกค่าตอบแทนดังกล่าวเป็น
ค่าใช้จ่ายตามอายุของสัญญา
4.3 สัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิ
บริษัทมีสัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิหลายฉบับเพื่อรับจองห้องภายในอาคาร
ศูนย์การค้าของโครงการปิ่นเกล้า พัทยาและรามอินทรา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ
2537 บริษัทไดัรับเงินประกันการจองสิทธิดังกล่าวจำนวนรวมประมาณ 33 ล้านบาทและ
509 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งแสดงไว้ในงบดุลภายใต้บัญชี เงินค้ำประกันสิทธิการเช่า
5. ภาระผูกพัน
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537 บริษัทมีภาระผูกพันที่จะต้องจ่ายค่าก่อสร้าง
อาคาร และวัสดุก่อสร้างสำหรับโครงการปิ่นเกล้าและพัทยาเป็นเงินรวมประมาณ 153 ล้านบาท
และ 413 ล้านบาท ตามลำดับ
6. วงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537 บริษัทมีวงเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารใน
ประเทศสองแห่งสำหรับโครงการของบริษัท โดยมียอดคงเหลือที่ยังไม่ได้เบิกมาใช้อีกเป็นจำนวน
เงินประมาณ 686 ล้านบาท และ 1,321 ล้านบาท ตามลำดับ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
(เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด และบริษัทย่อย)
-----------------------------------------------------------------
งบการเงินระหว่างกาลรวม
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือน
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537
และ
รายงานของผู้สอบบัญชี
-----------------------------------------------------------------
รายงานของผู้สอบบัญชี
เสนอ คณะกรรมการบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
(เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด)
ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุลรวม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537 และงบกำไรขาดทุน
รวมสำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และ
บริษัทย่อย (เดิมชื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด และบริษัทย่อย) ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมนัก
บัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย
การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ
ระบบในการจัดทำงบการเงิน การใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินและการ
สอบถามเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทางการเงินและบัญชี ซึ่งการสอบทานนี้มีขอบเขตจำกัด
กว่าการตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไปเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้น
ข้าพเจ้าจึงไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินที่สอบทานได้
ข้าพเจ้าไม่พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญซึ่งควรนำมาปรับปรุงงบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ให้เป็น
ไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปจากการสอบทานของข้าพเจ้าดังกล่าวข้างต้น
(นายไพฑูรย์ ทวีผล)
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
ทะเบียนเลขที่ 3035
กรุงเทพมหานคร
25 เมษายน 2538
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
(เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด และบริษัทย่อย)
งบดุลรวม
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537
สิ น ท รั พ ย์
พันบาท
2538 2537
สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินสดในมือและเงินฝากธนาคาร 26,084 45,671
เงินลงทุนระยะสั้น 236,800 35,000
ลูกหนี้การค้า 20,778 21,356
ลูกหนี้ค่าตอบแทนการเช่าระยะยาว 1,106,819 15,073
ลูกหนี้และเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 48,228 58,090
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 139,159 54,136
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 1,577,868 229,326
เงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 52,529 45,000
เงินลงทุนในหุ้นทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน - ราคาทุน 311,644 229,613
ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 54,690 55,522
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - ราคาทุนสุทธิจากค่าเสื่อมราคาสะสม 3,866,723 2,216,655
ที่ดิน - ราคาประเมิน 780,363 780,363
สินทรัพย์อื่น
สิทธิการเช่า - สุทธิ 544,571 510,025
เงินค้ำประกันเพื่อสิทธิการเช่า 365,304 196,730
สิทธิเพื่อการติดตั้งและให้บริการงานระบบสาธารณูปโภค 188,308 188,308
สินทรัพย์อื่น - สุทธิ 91,246 44,810
รวมสินทรัพย์อื่น 1,189,429 939,873
รวมสินทรัพย์ 7,833,246 4,496,352
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
(เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด และบริษัทย่อย)
งบดุลรวม
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
พันบาท
2538 2537
หนี้สินหมุนเวียน
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากธนาคาร 259,451 151,782
เงินกู้ยืมระยะสั้น 59,000 190,000
เจ้าหนี้ค่าก่อสร้าง 376,744 114,945
เจ้าหนี้ค่าซื้อที่ดิน - 183,122
เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี 372,696 302,722
ภาษีเงินได้ค้างจ่าย 77,393 51,536
เงินปันผลค้างจ่าย 110,000 -
เงินค้ำประกันสิทธิการเช่า 105,113 534,438
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 140,544 139,990
รวมหนี้สินหมุนเวียน 1,500,941 1,668,535
เงินกู้ยืมระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี 393,400 408,548
เงินมัดจำจากลูกค้า 325,314 221,664
รายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้า - สุทธิ 2,460,045 604,105
รวมหนี้สิน 4,679,700 2,902,852
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทย่อย 436,209 439,543
ส่วนของผู้ถือหุ้น 2,717,337 1,153,957
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 7,833,246 4,496,352
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
(เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด และบริษัทย่อย)
งบกำไรขาดทุนรวม
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537
พันบาท
2538 2537
รายได้
รายได้ค่าเช่าและบริการ 230,496 172,039
รายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่ม 27,768 19,068
รายได้จากการขายสิทธิการเช่าอาคารชุดพักอาศัย 13,129 -
รายได้อื่น 41,439 10,546
รวมรายได้ 312,832 201,653
ต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ต้นทุนการเช่าและบริการ 71,959 62,086
ต้นทุนขายอาหารและเครื่องดื่ม 22,958 23,741
ต้นทุนการขายสิทธิการเช่าอาคารชุดพักอาศัย 10,494 -
ค่าใช้จ่ายอื่น 63,097 33,259
ภาษีเงินได้ 44,419 27,779
รวมต้นทุนและค่าใช้จ่าย 212,927 146,865
กำไรก่อนส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 99,905 54,788
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในขาดทุนของบริษัทย่อย 265 382
กำไรสุทธิ 100,170 55,170
กำไรต่อหุ้น (บาท) 1.00 1.49
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
(เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด และบริษัทย่อย)
หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537
1. หลักเกณฑ์การจัดทำงบการเงินระหว่างกาลรวม
งบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ได้รวมบัญชีต่าง ๆ ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด
(มหาชน) (เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด) บริษัท เซ็นทรัลเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด บริษัท
หลังสวน เรียลตี้ จำกัด บริษัท เซ็นทรัลฟู้ดอเวนิว จำกัด บริษัท โฟกัส โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งบริษัทถือ
หุ้น 99.99% บริษัท นำทรัพย์พัฒนา จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 50% และบริษัทนำทรัพย์พัฒนา เรียลตี้ เซอร์วิส
จำกัด (บริษัท นำทรัพย์พัฒนา จำกัด ถือหุ้น 99.99%)
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อ
ให้เช่า
บริษัท เซ็นทรัลเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 2 มีนาคม
2536 เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการด้านสาธารณูปโภคภายในศูนย์การค้า
บริษัท หลังสวน เรียลตี้ จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2536
เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างคอนโดมิเนียมเพื่อขายสิทธิการเช่าห้องชุดพักอาศัยและก่อสร้างอาคารร้านค้าเพื่อขาย
บริษัท เซ็นทรัลฟู้ดอเวนิว จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2536
เพื่อประกอบธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่ม
บริษัท โฟกัส โฮลดิ้ง จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2538
เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
บริษัทนำทรัพย์พัฒนา จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2536
เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537
บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
- 2 -
บริษัท นำทรัพย์พัฒนาเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 16
พฤศจิกายน 2536 เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการด้านสาธารณูปโภคภายในศูนย์การค้า ณ วันที่ 31
มีนาคม 2538 และ 2537 บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
รายการบัญชีที่มีสาระสำคัญระหว่างบริษัทและบริษัทย่อย ซึ่งรวมอยู่ในงบการเงินระหว่าง
กาลรวมนี้ได้แสดงหักกลบลบกันแล้ว
2. รายการบัญชีกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
บริษัทมีรายการบัญชีส่วนหนึ่งเกิดขึ้นกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน บริษัทเหล่านี้เกี่ยวข้องกัน
โดยมีผู้ถือหุ้น และ/หรือ กรรมการร่วมกัน ผลของรายการดังกล่าวได้แสดงไว้ในงบการเงินตาม
มูลฐานที่ตกลงร่วมกันโดยกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
3. การแปรสภาพบริษัท/เปลี่ยนชื่อบริษัท/การเพิ่มทุนจดทะเบียน
ในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2537 ครั้งที่ 2/2537 และการประชุมสามัญผู้ถือ
หุ้น 1/2537 ผู้ถือหุ้นได้มีมติให้แปรสภาพบริษัทเป็นบริษัทมหาชน จำกัด เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 370 ล้าน
บาท (แบ่งเป็น 37 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) เป็น 1,000 ล้านบาท (แบ่งเป็น 100
ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 48 ล้านหุ้น และ
ขายให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 15 ล้านหุ้น การจำหน่ายครั้งนี้ก่อให้เกิดส่วนเกินมูลค่าหุ้น
จำนวน 1,185 ล้านบาท การแปรสภาพบริษัท การเปลี่ยนชื่อบริษัทและการเพิ่มทุนและ
จดทะเบียนได้จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2537
- 3 -
4. สัญญา
4.1 สัญญาเช่าระยะยาว
บริษัทมีสัญญาเช่าที่ดิน 3 ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่งและกลุ่มบุคคล
เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญาเช่าทั้ง 3 ฉบับมีอายุสามสิบปี และสามารถ
ต่ออายุต่อไปได้อีกโดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 1 ปี ก่อนครบอายุการเช่า
ตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าและเงินค้ำประกันการเช่าเป็นเงิน
รวมประมาณ 594 ล้านบาท และ 300 ล้านบาท ตามลำดับและบริษัทจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า
เป็นเงินรวมประมาณ 533 ล้านบาท และ 510 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ
2537 และจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงินรวมประมาณ 103 ล้านบาท และ 135
ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537 ตามลำดับ
บริษัทมีสัญญาเช่าช่วงที่ดิน 1 ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่งเพื่อดำเนิน
การก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญานี้มีอายุ 21 ปี 6 เดือน ตามเงื่อนไขของสัญญาบริษัทจะ
ต้องจ่ายเงินค้ำประกันการเช่าเป็นเงินประมาณ 62 ล้านบาท และค่าเช่าเป็นรายเดือนตาม
อัตราที่ระบุในสัญญาปีละประมาณ 2 ล้านถึง 10 ล้านบาท
บริษัทและบริษัทย่อยมีสัญญาจองเพื่อเช่าพื้นที่ภายในอาคารศูนย์การค้า 1 ฉบับ
กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง สัญญานี้มีอายุ 30 ปี และสามารถต่ออายุต่อไปได้อีก ตาม
เงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าและเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงิน
ประมาณ 155 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 บริษัทจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่า
เป็นเงินประมาณ 109 ล้านบาท
4.2 สัญญาต่างตอบแทน
ตามเงื่อนไขของสัญญาระหว่างบริษัทกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง บริษัทได้รับ
สิทธิก่อสร้างอาคารบนที่ดินที่เช่าโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องกันนั้น และดำเนินการหาผล
ประโยชน์จากอาคารดังกล่าวจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2551 สัญญานี้ต่ออายุได้อีกครั้งละ
10 ปี
- 4 -
บริษัทต้องชำระค่าตอบแทนเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 96,272,000 บาท โดยแบ่งชำระ
เป็นงวดต่าง ๆ กัน จนถึง พ.ศ. 2551 บริษัทมีนโยบายบันทึกค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นค่าใช้
จ่ายตามอายุของสัญญา
4.3 สัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิ
บริษัทมีสัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิหลายฉบับเพื่อรับจองห้องภายในอาคาร
ศูนย์การค้าของโครงการปิ่นเกล้า พัทยา รามอินทราและพระรามสาม ณ วันที่ 31 มีนาคม
2538 และ 2537 บริษัทได้รับเงินประกันการจองสิทธิดังกล่าวจำนวนรวมประมาณ 105
ล้านบาท และ 534 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งแสดงไว้ในงบดุลภายใต้บัญชี เงินค้ำประกัน
สิทธิการเช่า
5. ภาระผูกพัน
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537 บริษัทมีภาระผูกพันที่จะต้องจ่ายค่าก่อสร้าง
อาคาร ระบบสาธารณูปโภคและระบบต่าง ๆ ค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าออกแบบควบคุมและบริหารงาน
สำหรับโครงการต่าง ๆ เป็นเงินรวมประมาณ 610 ล้านบาท และ 498 ล้านบาทตามลำดับ
6. วงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538 และ 2537 บริษัทมีวงเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารใน
ประเทศสองแห่งสำหรับโครงการของบริษัท โดยมียอดคงเหลือที่ยังไม่ได้เบิกมาใช้อีกเป็นจำนวน
เงินประมาณ 686 ล้านบาท และ 1,321 ล้านบาท ตามล