15 สิงหาคม 2538
งบการเงิน 30 มิถุนายน 2538
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
(เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด)
-----------------------------------------------------------------
งบการเงินระหว่างกาล
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและหกเดือน
สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537
และ
รายงานของผู้สอบบัญชี
-----------------------------------------------------------------
รายงานของผู้สอบบัญชี
เสนอ คณะกรรมการบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
(เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด)
ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537 และงบ
กำไรขาดทุนสำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท
เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (เดิมชื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด) ตามมาตรฐานที่
กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย
การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลนี้ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยการทำความเข้า
ใจเกี่ยวกับระบบในการจัดทำงบการเงิน การใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบในการวิเคราะห์
ข้อมูลทางการเงินและการสอบถามเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทางการเงินและบัญชี
ซึ่งการสอบทานนี้มีขอบเขตจำกัดกว่าการตรวจสอบมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไป
เพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้น ข้าพเจ้าไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงิน
ที่สอบทานได้
ข้าพเจ้าไม่พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญซึ่งควรนำมาปรับปรุงงบการเงิน
ระหว่างกาลนี้ให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปจากการสอบทานของข้าพเจ้าดังกล่าว
ข้างต้น
(นายไพฑูรย์ ทวีผล)
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
ทะเบียนเลขที่ 3035
กรุงเทพมหานคร
26 กรกฎาคม 2538
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
(เดิมชื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด)
งบดุล
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537
สิ น ท รั พ ย์
พันบาท
2538 2537
สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินลงทุนระยะสั้น 707,344 80,000
ลูกหนี้การค้า 26,877 26,009
ลูกหนี้ค่าตอบแทนการเช่าระยะยาว 365,459 -
ลูกหนี้และเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อยและ
บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 457,854 95,414
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 175,883 54,355
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 1,733,417 255,778
เงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 112,529 45,000
เงินลงทุนในหุ้นทุนในบริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
(หมายเหตุ 3) 871,311 695,075
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - ราคาทุนสุทธิจากค่าเสื่อมราคาสะสม 2,824,394 2,168,328
สินทรัพย์อื่น
สิทธิการเช่า - สุทธิ 528,864 524,325
เงินค้ำประกันเพื่อสิทธิการเช่า 239,783 204,469
สินทรัพย์อื่น - สุทธิ 65,561 24,073
รวมสินทรัพย์อื่น 834,208 752,867
รวมสินทรัพย์ 6,375,859 3,917,048
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
(เดิมชื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด)
งบดุล
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
พันบาท
2538 2537
หนี้สินหมุนเวียน
เงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร 25,344 16,327
เงินกู้ยืมระยะสั้น 130,000 180,000
เจ้าหนี้ค่าก่อสร้างและที่ดิน 6,897 142,809
เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี 420,011 420,300
ภาษีเงินได้ค้างจ่าย 55,719 44,217
เงินปันผลค้างจ่าย 487 481,000
เงินค้ำประกันสิทธิการเช่า 17,974 535,571
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 90,498 91,824
รวมหนี้สินหมุนเวียน 746,930 1,912,048
เงินกู้ยืมระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี 879,300 555,222
เงินมัดจำจากลูกค้า 334,433 229,858
รายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้า - สุทธิ 1,586,265 470,176
รวมหนี้สิน 3,546,928 3,167,304
ส่วนของผู้ถือหุ้น 2,828,931 749,744
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 6,375,859 3,917,048
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
(เดิมชื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด)
งบกำไรขาดทุน
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537
พันบาท
งวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุด งวดบัญชีหกเดือนสิ้นสุด
วันที่ 30 มิถุนายน วันที่ 30 มิถุนายน
2538 2537 2538 2537
รายได้
รายได้ค่าเช่าและบริการ 277,355 177,359 503,430 350,630
ส่วนแบ่งในผลกำไร (ขาดทุน) จาก
เงินลงทุนในบริษัทย่อย 3,941 3,450 8,651 (5,084)
รายได้อื่น 46,237 21,250 86,788 31,377
รวมรายได้ 327,533 202,059 598,869 376,923
ต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ต้นทุนการเช่าและบริการ 84,945 61,056 155,775 122,871
ค่าใช้จ่ายอื่น 84,781 32,785 143,476 63,362
ภาษีเงินได้ 46,213 31,430 87,854 58,732
รวมต้นทุนและค่าใช้จ่าย 215,939 125,271 387,105 244,965
กำไรสุทธิ 111,594 76,788 211,764 131,958
กำไรต่อหุ้น (บาท) 1.12 2.08 2.12 3.57
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
(เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด)
หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
วันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537
1. รายการบัญชีกับบริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
บริษัทมีรายการบัญชีส่วนหนึ่งเกิดขึ้นกับบริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
บริษัทเหล่านี้เกี่ยวข้องกันโดยมีผู้ถือหุ้น และ/หรือ กรรมการร่วมกัน ผลของรายการดังกล่าว
ได้แสดงไว้ในงบการเงินระหว่างกาลที่ตกลงร่วมกันโดยกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
2. การแปรสภาพบริษัท/เปลี่ยนชื่อบริษัท/การเพิ่มทุนจดทะเบียน
ในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2537 ครั้งที่ 2/2537 และการประชุม
สามัญผู้ถือหุ้น 1/2537 ผู้ถือหุ้นได้มีมติให้แปรสภาพบริษัทเป็นบริษัทมหาชน จำกัด เปลี่ยนชื่อบริษัท
เป็น บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 370 ล้านบาท
(แบ่งเป็น 37 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) เป็น 1,000 ล้านบาท (แบ่งเป็น 100 ล้านหุ้น
มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 48 ล้านหุ้น และขายให้แก่
ประชาชนทั่วไปจำนวน 15 ล้านหุ้น การจำหน่ายครั้งนี้ก่อให้เกิดส่วนเกินมูลค่าหุ้นจำนวน 1,185
ล้านบาท การแปรสภาพบริษัท การเปลี่ยนชื่อบริษัทและการเพิ่มทุนจดทะเบียนได้จดทะเบียนกับ
กระทรวงพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2537
3. การเปลี่ยนแปลงทางการบัญชี
เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องแนวทาง
การปฏิบัติเกี่ยวกับข้อกำหนดในการดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียน บริษัทจึงเปลี่ยนแปลงวิธีการ
บันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อยจากวิธีราคาทุนเป็นวิธีส่วนได้เสียในไตรมาสที่ 4 ของปี 2537
ในการนี้ บริษัทคำนวณมูลค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อยตามวิธีส่วนได้เสีย ย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ได้ซื้อ
เงินลงทุนนั้นมาจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2536 แล้วปรับปรุงส่วนได้เสียดังกล่าวกับกำไรสะสมที่
ยังไม่ได้จัดสรรต้นปีด้วยผลขาดทุนสะสมจากส่วนได้เสียเป็นเงินประมาณ 2.6 ล้านบาท ส่วนแบ่ง
ในผลกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนในบริษัทย่อยสำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่
30 มิถุนายน 2538 และ 2537 แสดงเป็นรายการแยกต่างหากในงบกำไรขาดทุน
-2-
การเปลี่ยนแปลงวิธีการบัญชีจากวิธีราคาทุนเป็นวิธีส่วนได้เสียดังกล่าว
ข้างต้นเป็นผลให้ งบการเงินระหว่างกาลของปี 2537 ที่แสดงไว้ในที่นี้เพื่อการเปรียบเทียบ
แตกต่างไปจากที่เคยแสดงไว้ในปีก่อน
สำหรับเงินลงทุนในหุ้นทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกันซึ่งบริษัทถือหุ้นไว้และมี
สัดส่วนการลงทุนต่ำกว่าร้อยละ 20 บันทึกตามวิธีราคาทุน
4. สัญญา
4.1 สัญญาเช่าระยะยาว
บริษัทมีสัญญาเช่าที่ดิน 3 ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่ง
หนึ่งและกลุ่มบุคคลเพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญาเช่าทั้ง 3 ฉบับมีอายุสามสิบปี
และสามารถต่ออายุต่อไปได้อีกโดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 1 ปีก่อนครบอายุการเช่าตาม
เงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าและเงินค้ำประกันการเช่าเป็นเงินรวมประมาณ
594 ล้านบาท และ 300 ล้านบาท ตามลำดับและบริษัทจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นเงินประมาณ 529
ล้านบาท และ 524 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537 ตามลำดับและจ่ายเงิน
ค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงินรวมประมาณ 103 ล้านบาท และ 143 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน
2538 และ 2537 ตามลำดับ
บริษัทมีสัญญาเช่าช่วงที่ดิน 1 ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
แห่งหนึ่งเพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญานี้มีอายุ 21 ปี 6 เดือน ตามเงื่อนไขของ
สัญญาบริษัทจะต้องจ่ายเงินค้ำประกันการเช่าเป็นเงินประมาณ 62 ล้านบาท และค่าเช่าเป็น
รายเดือนตามอัตราที่ระบุในสัญญาปีละประมาณ 2 ล้านถึง 10 ล้านบาท
บริษัทมีสัญญาจองเพื่อเช่าช่วงพื้นที่ภายในอาคารศูนย์การค้า
1 ฉบับ กับบริษัท ที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่งสัญญานี้มีอายุ 30 ปี และสามารถต่ออายุต่อไปได้อีก
ตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าและเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงิน
ประมาณ 109 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538 บริษัทจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่า
เป็นเงินประมาณ 76 ล้านบาท
-3-
4.2 สัญญาต่างตอบแทน
ตามเงื่อนไขของสัญญาระหว่างบริษัทกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่ง
หนึ่ง บริษัทรับสิทธิก่อสร้างอาคารบนที่ดินที่เช่าโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องกันนั้น และดำเนินการหา
ผลประโยชน์จากอาคารดังกล่าวจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2551 สัญญานี้ต่ออายุได้อีกครั้งละ 10 ปี
บริษัทต้องชำระค่าตอบแทนเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 96,272,000 บาท โดย
แบ่งชำระเป็นงวดต่าง ๆ จนถึง พ.ศ. 2551 บริษัทมีนโยบายบันทึกค่าตอบแทนดังกล่าวเป็น
ค่าใช้จ่ายตามอายุของสัญญา
4.3 สัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิ
บริษัทมีสัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิหลายฉบับเพื่อรับจองห้อง
ภายในอาคารศูนย์การค้าของโครงการปิ่นเกล้า พัทยาและรามอินทรา ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538
และ 2537 บริษัทไดัรับเงินประกันการจองสิทธิดังกล่าวจำนวนรวมประมาณ 18 ล้านบาท และ
536 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งแสดงไว้ในงบดุลภายใต้บัญชี เงินค้ำประกันสิทธิการเช่า
5. ภาระผูกพัน
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537 บริษัทมีภาระผูกพันที่จะต้อง
จ่ายค่าก่อสร้าง อาคาร และวัสดุก่อสร้างสำหรับโครงการปิ่นเกล้าและพัทยาเป็นเงินรวม
ประมาณ 107 ล้านบาท และ 440 ล้านบาท ตามลำดับ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
(เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด และบริษัทย่อย)
-----------------------------------------------------------------
งบการเงินระหว่างกาลรวม
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและหกเดือน
สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537
และ
รายงานของผู้สอบบัญชี
----------------------------------------------------------------
รายงานของผู้สอบบัญชี
เสนอ คณะกรรมการบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
(เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด)
ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุลรวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537
และงบกำไรขาดทุนรวมสำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันเดียวกันของ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (เดิมชื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด
และบริษัทย่อย) ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย
การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยการทำความ
เข้าใจเกี่ยวกับระบบในการจัดทำงบการเงิน การใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบในการวิเคราะห์
ข้อมูลทางการเงินและการสอบถามเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทางการเงินและบัญชี
ซึ่งการสอบทานนี้มีขอบเขตจำกัดกว่าการตรวจสอบมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไปเพื่อ
แสดงความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้น ข้าพเจ้าไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินที่สอบทานได้
ข้าพเจ้าไม่พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญซึ่งควรนำมาปรับปรุงงบการเงินระหว่างกาลรวมนี้
ให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปจากการสอบทานของข้าพเจ้าดังกล่าวข้างต้น
(นายไพฑูรย์ ทวีผล)
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
ทะเบียนเลขที่ 3035
กรุงเทพมหานคร
26 กรกฎาคม 2538
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
(เดิมชื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด และบริษัทย่อย)
งบดุลรวม
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537
สิ น ท รั พ ย์
พันบาท
2538 2537
สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินลงทุนระยะสั้น 707,344 80,000
ลูกหนี้การค้า 50,193 39,970
ลูกหนี้ค่าตอบแทนการเช่าระยะยาว 855,285 -
ลูกหนี้และเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 67,622 60,575
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 250,350 89,895
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 1,930,794 270,440
เงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 112,529 45,000
เงินลงทุนในหุ้นทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน - ราคาทุน 311,644 259,613
ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 54,467 45,357
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - ราคาทุนสุทธิจากค่าเสื่อมราคาสะสม 3,950,857 2,455,510
ที่ดิน - ราคาประเมิน 780,363 780,363
สินทรัพย์อื่น
สิทธิการเช่า - สุทธิ 577,524 536,713
เงินค้ำประกันเพื่อสิทธิการเช่า 379,532 204,469
สิทธิเพื่อการติดตั้งและให้บริการงานระบบสาธารณูปโภค 188,308 188,308
สินทรัพย์อื่น - สุทธิ 101,724 41,299
รวมสินทรัพย์อื่น 1,247,088 970,789
รวมสินทรัพย์ 8,387,742 4,827,072
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
(เดิมชื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด และบริษัทย่อย)
งบดุลรวม
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
พันบาท
2538 2537
หนี้สินหมุนเวียน
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากธนาคาร 39,709 211,023
เงินกู้ยืมระยะสั้น 132,600 180,000
เจ้าหนี้ค่าก่อสร้างและที่ดิน 244,720 172,396
เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี 420,011 420,300
ภาษีเงินได้ค้างจ่าย 58,735 46,468
เงินปันผลค้างจ่าย 487 481,000
เงินค้ำประกันสิทธิการเช่า 98,924 578,804
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 161,537 137,133
รวมหนี้สินหมุนเวียน 1,156,723 2,227,124
เงินกู้ยืมระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี 1,099,050 555,222
เงินมัดจำจากลูกค้า 354,786 241,979
รายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้า - สุทธิ 2,512,496 615,572
รวมหนี้สิน 5,123,055 3,639,897
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทย่อย 435,756 437,431
ส่วนของผู้ถือหุ้น 2,828,931 749,744
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 8,387,742 4,827,072
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)และบริษัทย่อย
(เดิมชื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัดและบริษัทย่อย)
งบกำไรขาดทุนรวม
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537
พันบาท
งวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุด งวดบัญชีหกเดือนสิ้นสุด
วันที่ 30 มิถุนายน วันที่ 30 มิถุนายน
2538 2537 2538 2537
รายได้
รายได้ค่าเช่าและบริการ 323,963 183,349 554,460 355,388
รายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่ม 27,761 21,175 55,529 40,243
รายได้จากการขายสิทธิการเช่า
อาคารชุดพักอาศัย 26,702 - 39,830 -
รายได้อื่น 46,300 30,555 87,739 41,101
รวมรายได้ 424,726 235,079 737,558 436,732
ต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ต้นทุนการเช่าและบริการ 130,067 70,213 208,182 140,544
ต้นทุนขายอาหารและเครื่องดื่ม 19,103 13,802 35,905 29,298
ต้นทุนการขายสิทธิการเช่าอาคารชุดพักอาศัย 22,207 - 32,700 -
ค่าใช้จ่ายอื่น 93,081 41,881 156,179 75,140
ภาษีเงินได้ 49,126 34,508 93,545 62,287
รวมต้นทุนและค่าใช้จ่าย 313,584 160,404 526,511 307,269
กำไรก่อนส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 111,142 74,675 211,047 129,463
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในขาดทุนของบริษัทย่อย 452 2,113 717 2,495
กำไรสุทธิ 111,594 76,788 211,764 131,958
กำไรต่อหุ้น (บาท) 1.12 2.08 2.12 3.57
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
(เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด และบริษัทย่อย)
หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
วันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537
1. หลักเกณฑ์การจัดทำงบการเงินระหว่างกาลรวม
งบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ได้รวมบัญชีต่าง ๆ ของบริษัท เซ็นทรัล
พัฒนา จำกัด (มหาชน) (เดิมชื่อ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด) บริษัท เซ็นทรัลเรียลตี้
เซอร์วิส จำกัด บริษัท หลังสวน เรียลตี้ จำกัด บริษัท เซ็นทรัลฟู้ดอเวนิว จำกัด
บริษัท โฟกัส โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งบริษัทถือ หุ้นร้อยละ 99.99 บริษัท นำทรัพย์พัฒนา จำกัด
ซึ่งบริษัทถือหุ้นร้อยละ 50 และบริษัทนำทรัพย์พัฒนา เรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด (บริษัท
นำทรัพย์พัฒนา จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 99.99)
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคาร
ศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า
บริษัท เซ็นทรัลเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด ได้จดทะเบียนเป็น
นิติบุคคลเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2536 เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการด้านสาธารณูปโภคภายใน
อาคารศูนย์การค้า
บริษัท หลังสวน เรียลตี้ จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวัน
ที่ 18 มิถุนายน 2536 เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างคอนโดมิเนียมเพื่อขายสิทธิการเช่าห้องชุด
พักอาศัยและก่อสร้างอาคารร้านค้าเพื่อขาย
บริษัท เซ็นทรัลฟู้ดอเวนิว จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อ
วันที่ 26 ตุลาคม 2536 เพื่อประกอบธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่มในอาคารศูนย์การค้า
บริษัท โฟกัส โฮลดิ้ง จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 15
กุมภาพันธ์ 2538 เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน
2538 บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
บริษัทนำทรัพย์พัฒนา จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม
2536 เพื่อประกอบธุรกิจสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538
และ 2537 บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
- 2 -
บริษัท นำทรัพย์พัฒนาเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด ได้จดทะเบียนเป็น
นิติบุคคลเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2536 เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการด้านสาธารณูปโภค
ภายในอาคารศูนย์การค้า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537 บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
รายการบัญชีที่มีสาระสำคัญระหว่างบริษัทและบริษัทย่อย ซึ่งรวมอยู่
ในงบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ได้แสดงหักกลบลบกันแล้ว
2. รายการบัญชีกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
บริษัทมีรายการบัญชีส่วนหนึ่งเกิดขึ้นกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน บริษัทเหล่านี้
เกี่ยวข้องกันโดยมีผู้ถือหุ้น และ/หรือ กรรมการร่วมกัน ผลของรายการดังกล่าวได้แสดงไว้ใน
งบการเงินตามมูลฐานที่ตกลงร่วมกันโดยกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
3. การแปรสภาพบริษัท/เปลี่ยนชื่อบริษัท/การเพิ่มทุนจดทะเบียน
ในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2537 ครั้งที่ 2/2537 และ
การประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 1/2537 ผู้ถือหุ้นได้มีมติให้แปรสภาพบริษัทเป็นบริษัทมหาชน จำกัด
เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท
จาก 370 ล้านบาท (แบ่งเป็น 37 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) เป็น 1,000 ล้านบาท
(แบ่งเป็น 100 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน
48 ล้านหุ้น และขายให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 15 ล้านหุ้น การจำหน่ายครั้งนี้ก่อให้เกิด
ส่วนเกินมูลค่าหุ้นจำนวน 1,185 ล้านบาท การแปรสภาพบริษัท การเปลี่ยนชื่อบริษัทและ
การเพิ่มทุนจดทะเบียนได้จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2537
- 3 -
4. สัญญา
4.1 สัญญาเช่าระยะยาว
บริษัทมีสัญญาเช่าที่ดิน 3 ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่ง
หนึ่งและกลุ่มบุคคลเพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญาเช่าทั้ง 3 ฉบับมีอายุสามสิบปี
และสามารถต่ออายุต่อไปได้อีกโดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 1 ปีก่อนครบอายุการเช่าตาม
เงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าและเงินค้ำประกันการเช่าเป็นเงินรวม
ประมาณ 594 ล้านบาท และ 300 ล้านบาท ตามลำดับและบริษัทจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็น
เงินประมาณ 529 ล้านบาท และ 524 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537
ตามลำดับและจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงินรวมประมาณ 103 ล้านบาท และ 143
ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537 ตามลำดับ
บริษัทมีสัญญาเช่าช่วงที่ดิน 1 ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
แห่งหนึ่งเพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญานี้มีอายุ 21 ปี 6 เดือน ตามเงื่อนไข
ของสัญญาบริษัทจะต้องจ่ายเงินค้ำประกันการเช่าเป็นเงินประมาณ 62 ล้านบาท และค่าเช่า
เป็นรายเดือนตามอัตราที่ระบุในสัญญาปีละประมาณ 2 ล้านถึง 10 ล้านบาท
บริษัทและบริษัทย่อยมีสัญญาจองเพื่อเช่าช่วงพื้นที่ภายในอาคาร
ศูนย์การค้า 2 ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่งสัญญานี้มีอายุ 30 ปี และสามารถต่ออายุ
ต่อไปได้อีก ตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าและเงินค้ำประกันสิทธิ
การเช่าเป็นเงินประมาณ 155 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538 บริษัทจ่ายเงินค้ำประกัน
สิทธิการเช่าเป็นเงินประมาณ 109 ล้านบาท
4.2 สัญญาต่างตอบแทน
ตามเงื่อนไขของสัญญาระหว่างบริษัทกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่ง
หนึ่ง บริษัทได้รับสิทธิก่อสร้างอาคารบนที่ดินที่เช่าโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องกันนั้น และดำเนินการหา
ผลประโยชน์จากอาคารดังกล่าวจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2551 สัญญานี้ต่ออายุได้อีกครั้งละ 10 ปี
- 4 -
บริษัทต้องชำระค่าตอบแทนเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 96,272,000 บาท
โดยแบ่งชำระเป็นงวดต่าง ๆ จนถึง พ.ศ. 2551 บริษัทมีนโยบายบันทึกค่าตอบแทนดังกล่าวเป็น
ค่าใช้จ่ายตามอายุของสัญญา
4.3 สัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิ
บริษัทมีสัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิหลายฉบับเพื่อรับจองห้อง
ภายในอาคารศูนย์การค้าของโครงการปิ่นเกล้า พัทยาและรามอินทรา ณ วันที่ 30 มิถุนายน
2538 และ 2537 บริษัทไดัรับเงินประกันการจองสิทธิดังกล่าวจำนวนเงินรวมประมาณ 99
ล้านบาท และ 579 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งแสดงไว้ในงบดุลภายใต้บัญชี เงินค้ำประกันสิทธิการเช่า
5. ภาระผูกพัน
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538 และ 2537 บริษัทมีภาระผูกพันที่จะต้อง
จ่ายค่าก่อสร้าง อาคาร ระบบสาธารณูปโภคและระบบต่างๆ ค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าออกแบบ
ความคุมและบริหารงานสำหรับโครงการต่าง ๆ เป็นเงินรวมประมาณ 488 ล้านบาท และ
653 ล้านบาท ตามลำดับ
6. วงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2538 บริษัทย่อยมีวงเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร
ในประเทศแห่งหนึ่งสำหรับโครงการของบริษัทย่อย โดยมียอดคงเหลือที่ยังไม่ได้เบิกมาใช้อีก
เป็นจำนวนเงินประมาณ 1,280 ล้า