14 พฤศจิกายน 2538
งบการเงิน 30 กันยายน 2538
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
-----------------------------------------------------------------
งบการเงินระหว่างกาล
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและเก้าเดือน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537
และ
รายงานของผู้สอบบัญชี
-----------------------------------------------------------------
รายงานของผู้สอบบัญชี
เสนอ คณะกรรมการบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุล ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537 และงบกำไรขาดทุน
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย
การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลนี้ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบ
ในการจัดทำงบการเงิน การใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินและการสอบถาม
เจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทางการเงินและบัญชี ซึ่งการสอบทานนี้มีขอบเขตจำกัดกว่าการตรวจ
สอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไปเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่อาจ
แสดงความเห็นต่องบการเงินที่สอบทานนี้ได้
ข้าพเจ้าไม่พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญซึ่งควรนำมาปรับปรุงงบการเงินระหว่างกาลนี้ให้เป็นไปตาม
หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปจากการสอบทานของข้าพเจ้าดังกล่าวข้างต้น
(นายไพฑูรย์ ทวีผล)
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
ทะเบียนเลขที่ 3035
กรุงเทพมหานคร
20 ตุลาคม 2537
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
งบดุล
ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537
สิ น ท รั พ ย์
พันบาท
2538 2537
สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินลงทุนระยะสั้น 344,000 67,892
ลูกหนี้การค้า 34,497 25,792
ลูกหนี้ค่าตอบแทนการเช่าระยะยาว 209,407 -
ลูกหนี้และเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อยและบริษัท
ที่เกี่ยวข้องกัน 414,141 188,431
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 201,826 11,946
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 1,203,871 294,061
เงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 112,529 45,000
เงินลงทุนในหุ้นทุนในบริษัทย่อยและบริษัท
ที่เกี่ยวข้องกัน (หมายเหตุ 2) 889,954 722,800
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - ราคาทุนสุทธิจาก
ค่าเสื่อมราคาสะสม 2,919,446 2,348,020
สินทรัพย์อื่น
สิทธิการเช่า - สุทธิ 603,661 525,914
เงินค้ำประกันเพื่อสิทธิการเช่า 266,185 226,730
สินทรัพย์อื่น - สุทธิ 55,302 23,765
รวมสินทรัพย์อื่น 925,148 776,409
รวมสินทรัพย์ 6,050,948 4,186,290
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
งบดุล
ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
พันบาท
2538 2537
หนี้สินหมุนเวียน
เงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร 48,688 21,630
เงินกู้ยืมระยะสั้น 90,000 179,000
เจ้าหนี้ค่าก่อสร้างและที่ดิน 17,743 92,230
เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี 175,811 562,922
ภาษีเงินได้ค้างจ่าย 23,634 36,397
เงินปันผลค้างจ่าย - 481,000
เงินค้ำประกันสิทธิการเช่า 4,353 560,969
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 98,965 114,495
รวมหนี้สินหมุนเวียน 459,194 2,048,643
เงินกู้ยืมระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี 679,200 569,600
เงินมัดจำจากลูกค้า 369,253 270,984
รายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้า - สุทธิ 1,593,186 469,361
รวมหนี้สิน 3,100,833 3,358,588
ส่วนของผู้ถือหุ้น 2,950,115 827,702
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 6,050,948 4,186,290
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
งบกำไรขาดทุน
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและเก้าเดือน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537
พันบาท
งวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุด งวดบัญชีเก้าเดือนสิ้นสุด
วันที่ 30 กันยายน วันที่ 30 กันยายน
2538 2537 2538 2537
รายได้
รายได้ค่าเช่าและบริการ 284,967 191,152 788,398 541,781
ส่วนแบ่งในผลกำไร (ขาดทุน)
จากเงินลงทุนในบริษัทย่อย 17,644 4,016 26,295 (1,067)
รายได้อื่น 56,355 11,981 143,142 43,358
รวมรายได้ 358,966 207,149 957,835 584,072
ต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ต้นทุนการเช่าและบริการ 88,138 63,846 243,914 186,717
ค่าใช้จ่ายอื่น 103,143 33,656 246,619 97,017
ภาษีเงินได้ 46,500 31,689 134,354 90,422
รวมต้นทุนและ
ค่าใช้จ่าย 237,781 129,191 624,887 374,156
กำไรสุทธิ 121,185 77,958 332,948 209,916
กำไรต่อหุ้น (บาท) 1.21 2.11 3.33 5.67
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537
1. รายการทางบัญชีกับบริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
บริษัทมีรายการบัญชีส่วนหนึ่งเกิดขึ้นกับบริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน บริษัท
เหล่านี้เกี่ยวข้องกันโดยมีผู้ถือหุ้น และ/หรือ กรรมการร่วมกัน ผลของรายการดังกล่าวได้แสดงไว้
ในงบการเงินตามมูลฐานที่ตกลงร่วมกันโดยกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
2.การเปลี่ยนแปลงทางการบัญชี
เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องแนวทาง
การปฏิบัติเกี่ยวกับข้อกำหนดในการดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียน บริษัทจึงเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึก
บัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อยจากวิธีราคาทุนเป็นวิธีส่วนได้เสียในไตรมาสที่ 4 ของปี 2537 ในการนี้บริษัท
คำนวณมูลค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อยตามวิธีส่วนได้เสีย ย้อนหลังไป ตั้งแต่วันที่ได้ซื้อเงินลงทุนนั้นมา
จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2536 แล้วปรับปรุงส่วนได้เสียดังกล่าวกับกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรต้นปีด้วยผล
ขาดทุนสะสมจากส่วนได้เสียเป็นเงินประมาณ 2.6 ล้านบาท ส่วนแบ่งในผลกำไร (ขาดทุน) จากเงิน
ลงทุนในบริษัทย่อยสำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537 แสดง
เป็นรายการแยกต่างหากในงบกำไรขาดทุน
การเปลี่ยนแปลงวิธีการบัญชีจากวิธีราคาทุนเป็นวิธีส่วนได้เสียดังกล่าวข้างต้นเป็นผล
ให้งบการเงินระหว่างกาลของปี 2537 ที่แสดงไว้ในที่นี้เพื่อการเปรียบเทียบแตกต่างไปจากที่เคยแสดงไว้
ในปีก่อน
สำหรับเงินลงทุนในหุ้นทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกันซึ่งบริษัทถือหุ้นไว้และมีสัดส่วนการลง
ทุนต่ำกว่าร้อยละ 20 บันทึกตามวิธีราคาทุน
- 2 -
3. การแปรสภาพบริษัท/เปลี่ยนชื่อบริษัท/การเพิ่มทุนจดทะเบียน
ในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2537 ครั้งที่ 2/2537 และการประชุมสามัญ
ผู้ถือหุ้น 1/2537 ผู้ถือหุ้นได้มีมติให้แปรสภาพบริษัทเป็นบริษัทมหาชน จำกัด เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท
เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 370 ล้านบาท (แบ่งเป็น 37
ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) เป็น 1,000 ล้านบาท (แบ่งเป็น 100 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท)
โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 48 ล้านหุ้น และขายให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 15
ล้านหุ้น การจำหน่ายครั้งนี้ก่อให้เกิดส่วนเกินมูลค่าหุ้นจำนวน 1,185 ล้านบาท การแปรสภาพบริษัท
การเปลี่ยนชื่อบริษัทและการเพิ่มทุนจดทะเบียนได้จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม
2537
4. สัญญา
4.1 สัญญาเช่าระยะยาว
บริษัทมีสัญญาเช่าที่ดิน 3 ฉบับกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่งและกลุ่มบุคคล เพื่อ
ดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญาเช่าทั้ง 3 ฉบับมีอายุสามสิบปี และสามารถ ต่ออายุต่อไปได้อีก
โดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 1 ปีก่อนครบอายุการเช่า ตามเงื่อนไขของสัญญาบริษัทจะต้อง
จ่ายค่าเช่าล่วงหน้าและเงินค้ำประกันการเช่าเป็นเงินรวมประมาณ 594 ล้านบาท และ 300 ล้านบาท
ตามลำดับ บริษัทจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นเงินรวมประมาณ 532 ล้านบาท และ 526 ล้านบาท ณ วันที่
30 กันยายน 2538 และ 2537 ตามลำดับ และจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงินรวมประมาณ 180
ล้านบาท และ 165 ล้านบาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537 ตามลำดับ
บริษัทมีสัญญาเช่าช่วงที่ดิน 1 ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่งเพื่อดำเนินการก่อสร้าง
อาคารให้เช่า สัญญานี้มีอายุ 21 ปี 6 เดือน ตามเงื่อนไขของสัญญาบริษัทจะต้องจ่ายเงินค้ำประกันการ
เช่าเป็นเงินประมาณ 62 ล้านบาท และค่าเช่าเป็นรายเดือนตามอัตราที่ระบุในสัญญาปีละประมาณ 2
ล้านบาท ถึง 10 ล้านบาท
- 3 -
บริษัทมีสัญญาจองเพื่อเช่าช่วงพื้นที่ภายในอาคารศูนย์การค้า 1 ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยว
ข้องกันแห่งหนึ่งสัญญานี้มีอายุ 30 ปี และสามารถต่ออายุต่อไปได้อีก ตามเงื่อนไขของสัญญาบริษัทจะ
ต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าและเงินค้ำประกันสิทธิเช่าเป็นเงินประมาณ 109 ล้านบาท ณ วันที่ 30 กันยายน
2538 บริษัทจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงินประมาณ 103 ล้านบาท
4.2 สัญญาต่างตอบแทน
ตามเงื่อนไขของสัญญาระหว่างบริษัทกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง บริษัทได้รับ
สิทธิก่อสร้างอาคารบนที่ดินที่เช่าโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องกันนั้น และดำเนินการหาผลประโยชน์จากอาคาร
ดังกล่าวจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2551 สัญญานี้ต่ออายุได้อีกครั้งละ 10 ปี
บริษัทต้องชำระค่าตอบแทนเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 96,272,000 บาท โดยแบ่งชำระเป็น
งวดต่าง ๆ กัน จนถึง พ.ศ. 2551 บริษัทมีนโยบายบันทึกค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายตามอายุของ
สัญญา
4.3 สัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิ
บริษัทมีสัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิหลายฉบับเพื่อรับจองห้องภายในอาคารศูนย์การค้า
ของโครงการปิ่นเกล้า พัทยาและรามอินทรา ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537 บริษัทได้รับเงินประกัน
การจองสิทธิดังกล่าวจำนวนรวมประมาณ 4 ล้านบาท และ 561 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งแสดงไว้ในงบดุล
ภายใต้บัญชี เงินค้ำประกันสิทธิการเช่า
5. ภาระผูกพัน
ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537 บริษัทมีภาระผูกพันที่จะต้องจ่ายค่าก่อสร้าง
อาคารและวัสดุก่อสร้างสำหรับโครงการรามอินทรา ปิ่นเกล้าและพัทยาเป็นเงินรวมประมาณ 297 ล้านบาท
และ 238 ล้านบาท ตามลำดับ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
-----------------------------------------------------------------
งบการเงินระหว่างกาลรวม
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและเก้าเดือน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537
และ
รายงานของผู้สอบบัญชี
-----------------------------------------------------------------
รายงานของผู้สอบบัญชี
เสนอ คณะกรรมการบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุลรวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537 และ
งบกำไรขาดทุนรวมสำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันเดียวกันของ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคม
นักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย
การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยการทำความเข้า
ใจเกี่ยวกับระบบในการจัดทำงบการเงิน การใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบในการวิเคราะห์ข้อมูล
ทางการเงินและการสอบถามเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทางการเงินและบัญชี ซึ่งการ
สอบทานนี้มีขอบเขตจำกัดกว่าการตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไปเพื่อแสดง
ความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินที่สอบทานนี้ได้
ข้าพเจ้าไม่พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญซึ่งควรนำมาปรับปรุงงบการเงินระหว่างกาลรวมนี้
ให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปจากการสอบทานของข้าพเจ้าดังกล่าวข้างต้น
(นายไพฑูรย์ ทวีผล)
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
ทะเบียนเลขที่ 3035
กรุงเทพมหานคร
31 ตุลาคม 2538
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
งบดุลรวม
ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537
สิ น ท รั พ ย์
พันบาท
2538 2537
สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินลงทุนระยะสั้น 344,000 67,892
ลูกหนี้การค้า 65,076 42,635
ลูกหนี้ค่าตอบแทนการเช่าระยะยาว 478,009 -
ลูกหนี้และเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 56,434 70,610
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 294,245 57,191
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 1,237,764 238,328
เงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 112,529 45,000
เงินลงทุนในหุ้นทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน - ราคาทุน 311,644 283,321
ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 54,001 60,297
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - ราคาทุนสุทธิจากค่าเสื่อมราคาสะสม 4,228,191 2,715,308
ที่ดิน - ราคาประเมิน 780,363 780,363
สินทรัพย์อื่น
สิทธิการเช่า - สุทธิ 670,997 525,101
เงินค้ำประกันเพื่อสิทธิการเช่า 432,538 236,730
สิทธิเพื่อติดตั้งและให้บริการงานระบบสาธารณูปโภค 188,308 188,308
สินทรัพย์อื่น - สุทธิ 100,648 44,290
รวมสินทรัพย์อื่น 1,392,491 994,429
รวมสินทรัพย์ 8,116,983 5,117,046
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
งบดุลรวม
ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
พันบาท
2538 2537
หนี้สินหมุนเวียน
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากธนาคาร 69,809 231,395
เงินกู้ยืมระยะสั้น 120,000 179,000
เจ้าหนี้ค่าก่อสร้างและที่ดิน 140,561 107,293
เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี 175,811 562,922
ภาษีเงินได้ค้างจ่าย 27,511 39,369
เงินปันผลค้างจ่าย - 481,000
เงินค้ำประกันสิทธิการเช่า 92,631 620,113
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 195,789 158,343
รวมหนี้สินหมุนเวียน 822,112 2,379,435
เงินกู้ยืมระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี 976,250 569,600
เงินมัดจำจากลูกค้า 397,140 284,581
รายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้า - สุทธิ 2,535,127 618,896
รวมหนี้สิน 4,730,629 3,852,512
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทย่อย 436,239 436,832
ส่วนของผู้ถือหุ้น 2,950,115 827,702
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 8,116,983 5,117,046
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
งบกำไรขาดทุนรวม
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและเก้าเดือน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537
พันบาท
งวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุด งวดบัญชีเก้าเดือนสิ้นสุด
วันที่ 30 กันยายน วันที่ 30 กันยายน
2538 2537 2538 2537
รายได้
รายได้ค่าเช่าและบริการ 354,367 196,148 908,827 551,536
รายได้จากการขายอาหาร
และเครื่องดื่ม 33,144 23,809 88,673 64,051
รายได้จากการขายสิทธิการเช่า
ห้องชุดพักอาศัย 24,740 - 64,570 -
รายได้อื่น 57,651 14,948 145,390 56,050
รวมรายได้ 469,902 234,905 1,207,460 671,637
ต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ต้นทุนการเช่าและบริการ 139,117 72,487 347,299 213,031
ต้นทุนขายอาหารและเครื่องดื่ม 24,529 13,780 60,434 43,077
ต้นทุนการขายสิทธิการเช่า
ห้องชุดพักอาศัย 19,053 - 51,753 -
ค่าใช้จ่ายอื่น 111,288 37,980 267,467 113,121
ภาษีเงินได้ 54,248 33,299 147,794 95,586
รวมต้นทุนและค่าใช้จ่าย 348,235 157,546 874,747 464,815
กำไรก่อนส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 121,667 77,359 332,713 206,822
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทย่อย (482) 599 235 3,094
กำไรสุทธิ 121,185 77,958 332,948 209,916
กำไรต่อหุ้น (บาท) 1.21 2.11 3.33 5.67
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537
1. หลักเกณฑ์การจัดทำงบการเงินระหว่างกาลรวม
งบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ได้รวมบัญชีต่าง ๆ ของบริษัท เซ็นทรัล
พัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท เซ็นทรัลเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด บริษัทหลังสวน เรียลตี้ จำกัด
บริษัท เซ็นทรัลฟู้ดอเวนิว จำกัด บริษัท โฟกัส โฮลดิ้ง จำกัด บริษัท ซี อาร์ เวนเจอร์ จำกัด
ซึ่งบริษัทถือหุ้น ร้อยละ 99.99 บริษัท นำทรัพย์พัฒนา จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นร้อยละ 50 และบริษัท
นำทรัพย์พัฒนา เรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด (บริษัท นำทรัพย์พัฒนา จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 99.99)
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคาร
ศูนย์การค้า เพื่อให้เช่า
บริษัท เซ็นทรัลเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อ
วันที่ 2 มีนาคม 2536 เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการด้านสาธารณูปโภคภายในอาคารศูนย์การค้า
บริษัท หลังสวน เรียลตี้ จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 18
มิถุนายน 2536 เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างคอนโดมิเนียมเพื่อขายสิทธิการเช่าห้องชุดพักอาศัยและ
ก่อสร้างอาคารร้านค้าเพื่อขาย
บริษัท เซ็นทรัลฟู้ดอเวนิว จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 26
ตุลาคม 2536 เพื่อประกอบธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่มในอาคารศูนย์การค้า
บริษัท โฟกัส โฮลดิ้ง จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์
2538 เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2538
บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
บริษัท ซี อาร์ เวนเจอร์ จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน
2538 เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 บริษัทยังมิได้
ดำเนินพาณิชยกิจ
บริษัท นำทรัพย์พัฒนา จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม
2536 เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537
บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
- 2 -
บริษัท นำทรัพย์พัฒนาเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อ
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2536 เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการด้านสาธารณูปโภคภายในอาคารศูนย์การค้า
ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537 บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
รายการบัญชีที่มีสาระสำคัญระหว่างบริษัทและบริษัทย่อย ซึ่งรวมอยู่ในงบการเงิน
ระหว่างกาลรวมนี้ได้แสดงหักกลบลบกันแล้ว
2. รายการทางบัญชีกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
บริษัทมีรายการบัญชีส่วนหนึ่งเกิดขึ้นกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน บริษัทเหล่านี้เกี่ยวข้องกัน
โดยมีผู้ถือหุ้น และ/หรือ กรรมการร่วมกัน ผลของรายการดังกล่าวได้แสดงไว้ในงบการเงินตาม มูลฐานที่
ตกลงร่วมกันโดยกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
3. การแปรสภาพบริษัท/เปลี่ยนชื่อบริษัท/การเพิ่มทุนจดทะเบียน
ในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2537 ครั้งที่ 2/2537 และการประชุมสามัญ
ผู้ถือหุ้น 1/2537 ผู้ถือหุ้นได้มีมติให้แปรสภาพบริษัทเป็นบริษัทมหาชน จำกัด เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท
เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 370 ล้านบาท (แบ่งเป็น 37
ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) เป็น 1,000 ล้านบาท (แบ่งเป็น 100 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10
บาท) โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 48 ล้านหุ้น และขาย ให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน
15 ล้านหุ้น การจำหน่ายครั้งนี้ก่อให้เกิดส่วนเกินมูลค่าหุ้นจำนวน 1,185 ล้านบาท การแปรสภาพบริษัท
การเปลี่ยนชื่อบริษัทและการเพิ่มทุนจดทะเบียน ได้จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 19
กรกฎาคม 2537
- 3 -
4. สัญญา
4.1 สัญญาเช่าระยะยาว
บริษัทมีสัญญาเช่าที่ดิน 3 ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่งและกลุ่มบุคคล
เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญาเช่าทั้ง 3 ฉบับมีอายุสามสิบปี และสามารถต่ออายุต่อไป
ได้อีกโดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 1 ปี ก่อนครบอายุการเช่า ตามเงื่อนไขของสัญญา
บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าและเงินค้ำประกันการเช่าเป็นเงินรวมประมาณ 594 ล้านบาท และ
300 ล้านบาท ตามลำดับ และบริษัทจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นเงินรวมประมาณ 532 ล้านบาท และ
526 ล้านบาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537 ตามลำดับ และจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่า
เป็นเงินรวมประมาณ 180 ล้านบาท และ 165 ล้านบาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537
ตามลำดับ
บริษัทมีสัญญาเช่าช่วงที่ดิน 1 ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่งเพื่อดำเนินการ
ก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญานี้มีอายุ 21 ปี 6 เดือน ตามเงื่อนไขของสัญญาบริษัท จะต้องจ่ายเงิน
ค้ำประกันการเช่าเป็นเงินประมาณ 62 ล้านบาท และค่าเช่าเป็นรายเดือนตามอัตราที่ระบุในสัญญาปีละ
ประมาณ 2 ล้าน ถึง 10 ล้านบาท
บริษัทและบริษัทย่อยมีสัญญาจองเพื่อเช่าพื้นที่ภายในอาคารศูนย์การค้า 1 ฉบับ
กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง สัญญานี้มีอายุ 30 ปี และสามารถต่ออายุต่อไปได้อีก ตามเงื่อนไขของ
สัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าและเงินค้ำประกันสิทธิการเช่า เป็นเงินประมาณ 155 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 บริษัทจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงินประมาณ 147 ล้านบาท
บริษัทย่อยมีสัญญาเช่าที่ดินกับบุคคลธรรมดาเพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า
สัญญานี้มีอายุ 30 ปี และสามารถต่ออายุต่อไปได้อีกโดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 1 ปี
ก่อนครบอายุการเช่า ตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นจำนวนเงินรวม
ประมาณ 12.6 ล้านบาท และค่าเช่าเป็นรายเดือนประมาณปีละ 0.6 ล้านบาท โดยจะมีการปรับค่าเช่า
เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 10 ในทุก ๆ 5 ปี ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 บริษัทย่อยจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า
เป็นเงินรวมประมาณ 7.4 ล้านบาท
- 4 -
4.2 สัญญาต่างตอบแทน
ตามเงื่อนไขของสัญญาระหว่างบริษัทกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง บริษัทได้รับ
สิทธิก่อสร้างอาคารบนที่ดินที่เช่าโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องกันนั้น และดำเนินการหาผลประโยชน์จากอาคาร
ดังกล่าวจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2551 สัญญานี้ต่ออายุได้อีกครั้งละ 10 ปี
บริษัทต้องชำระค่าตอบแทนเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 96,272,000 บาท โดยแบ่งชำระ
เป็นงวดต่าง ๆ กัน จนถึง พ.ศ. 2551 บริษัทมีนโยบายบันทึกค่าตอบแทนดังกล่าวเป็น ค่าใช้จ่ายตาม
อายุของสัญญา
4.3 สัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิ
บริษัทมีสัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิหลายฉบับเพื่อรับจองห้องภายในอาคารศูนย์
การค้าของโครงการปิ่นเกล้า พัทยา รามอินทราและพระรามสาม ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537
บริษัทได้รับเงินประกันการจองสิทธิดังกล่าวจำนวนรวมประมาณ 93 ล้านบาท และ 620 ล้านบาท ตามลำดับ
ซึ่งแสดงไว้ในงบดุลภายใต้บัญชี เงินค้ำประกันสิทธิการเช่า
5. ภาระผูกพัน
ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 และ 2537 บริษัทมีภาระผูกพันที่จะต้องจ่ายค่าก่อสร้าง
อาคาร ระบบสาธารณูปโภคและระบบต่าง ๆ ค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าออกแบบควบคุมและบริหารงาน สำหรับ
โครงการต่าง ๆ เป็นเงินรวมประมาณ 765 ล้านบาท และ 900 ล้านบาท ตามลำดับ
6. วงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้
ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 บริษัทย่อยมีวงเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารใน
ประเทศแห่งหนึ่งสำหรับโครงการของบริษัทย่อย โดยมียอดคงเหลือที่ยังไม่ได้เบิกมาใช้อีกเป็นจำนวนเงิน
ประมาณ 1,203 ล้านบาท
- 5 -
7. การจัดประเภทบัญชีใหม่
บัญชีบางบัญชีในปี 2537 ได้จัดประเภทใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการแสดงรายการใน
งบการเงินระหว่างกาลรวมปี