14 สิงหาคม 2539
งบการเงิน CPN-CONSO ไตรมาส 2/2539
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
-----------------------------------------------------------------
งบการเงินระหว่างกาลรวม
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและหกเดือน
สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538
และ
รายงานของผู้สอบบัญชี
-----------------------------------------------------------------
รายงานของผู้สอบบัญชี
เสนอ ผู้ถือหุ้นบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุลรวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538 และงบกำไรขาดทุน รวมสำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย
การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ระบบในการจัดทำงบการเงิน การใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินและการ สอบถามเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทางการเงินและบัญชี ซึ่งการสอบทานนี้มีขอบเขตจำกัด กว่าการตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไปเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้น ข้าพเจ้าไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินที่สอบทานได้
ข้าพเจ้าไม่พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญซึ่งควรนำมาปรับปรุงงบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ให้เป็นไป ตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปจากการสอบทานของข้าพเจ้าดังกล่าวข้างต้น
(นายไพฑูรย์ ทวีผล)
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
ทะเบียนเลขที่ 3035
กรุงเทพมหานคร 23 กรกฎาคม 2539
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
งบดุลรวม
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538
สิ น ท รั พ ย์
พันบาท
2539 2538 สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงิน 240,248 707,344
ลูกหนี้การค้า 110,456 50,193
ลูกหนี้ค่าตอบแทนการเช่าระยะยาว 232,542 855,285
ลูกหนี้และเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 56,943 67,622
มูลค่างานที่เสร็จยังไม่ได้เรียกเก็บ 93,524 -
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 257,876 250,350
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 991,589 1,930,794 เงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 133,875 112,529 เงินลงทุนในหุ้นทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน - ราคาทุน 324,754 311,644 ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 39,075 54,467 ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - ราคาทุนสุทธิจากค่าเสื่อมราคาสะสม 6,250,094 3,950,857 ที่ดิน - ราคาประเมิน 780,363 780,363 สินทรัพย์อื่น
สิทธิการเช่า - สุทธิ 909,432 577,524
เงินค้ำประกันเพื่อสิทธิการเช่า - สุทธิ 571,674 379,532
สิทธิเพื่อการติดตั้งและให้บริการงานระบบสาธารณูปโภค 188,308 188,308
สินทรัพย์อื่น - สุทธิ 159,338 101,724
รวมสินทรัพย์อื่น 1,828,752 1,247,088
รวมสินทรัพย์ 10,348,502 8,387,742
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
งบดุลรวม
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
พันบาท
2539 2538 หนี้สินหมุนเวียน
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากธนาคาร 618,229 39,709
เงินกู้ยืมระยะสั้น 648,000 132,600
เจ้าหนี้ค่าก่อสร้างและอาคาร 95,621 244,720
เจ้าหนี้บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 101,685 -
เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี - 420,011
ภาษีเงินได้ค้างจ่าย 95,627 58,735
เงินค้ำประกันสิทธิการเช่า 133,384 98,924
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 310,634 162,024
รวมหนี้สินหมุนเวียน 2,003,180 1,156,723 เงินมัดจำจากลูกค้า 474,840 354,786 รายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้า - สุทธิ 2,483,062 2,512,496 เงินกู้ยืมระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี 433,050 1,099,050 หุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตราต่างประเทศ 1,270,500 -
รวมหนี้สิน 6,664,632 5,123,055 ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทย่อย 508,846 435,756 ส่วนของผู้ถือหุ้น 3,175,024 2,828,931
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 10,348,502 8,387,742
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)และบริษัทย่อย
งบกำไรขาดทุนรวม
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538
พันบาท
งวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุด งวดบัญชีหกเดือนสิ้นสุด
วันที่ 30 มิถุนายน วันที่ 30 มิถุนายน
2539 2538 2539 2538 รายได้
รายได้ค่าเช่าและบริการ 407,680 323,963 791,114 554,460
รายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่ม 56,021 27,761 99,646 55,529
รายได้จากการขายสิทธิการเช่า
อาคารชุดพักอาศัย 5,987 26,702 11,846 39,830
รายได้อื่น 77,937 46,300 129,738 87,739
รวมรายได้ 547,625 424,726 1,032,344 737,558 ต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ต้นทุนการเช่าและบริการ 172,922 130,067 326,962 208,182
ต้นทุนขายอาหารและเครื่องดื่ม 45,092 19,103 80,567 35,905
ต้นทุนการขายสิทธิการเช่าอาคารชุดพักอาศัย 5,205 22,207 10,394 32,700
ค่าใช้จ่ายอื่น 110,818 93,081 206,677 156,179
ภาษีเงินได้ 64,144 49,126 124,249 93,545
รวมต้นทุนและค่าใช้จ่าย 398,181 313,584 748,849 526,511
กำไรก่อนส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 149,444 111,142 283,495 211,047
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยใน (กำไร)
ขาดทุนของบริษัทย่อย (96) 452 (446) 717
กำไรสุทธิ 149,348 111,594 283,049 211,764 กำไรต่อหุ้น (บาท) 1.49 1.12 2.83 2.12 โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
วันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538
1. หลักเกณฑ์การจัดทำงบการเงินระหว่างกาลรวม
งบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ได้รวมบัญชีต่าง ๆ ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท เซ็นทรัลเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด บริษัทหลังสวน เรียลตี้ จำกัด บริษัท เซ็นทรัลฟู้ดอเวนิว
จำกัด บริษัท โฟกัส โฮลดิ้ง จำกัด บริษัท ซี อาร์ เวนเจอร์ จำกัด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา เชียงใหม่ จำกัด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา โคราช จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นร้อยละ 99.99 บริษัท แก่นร่วมกร จำกัด ซึ่งบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 61.743 บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ไนน์สแควร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นร้อยละ 60 บริษัท นำทรัพย์พัฒนา จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นร้อยละ 50 และบริษัทนำทรัพย์พัฒนา เรียลตี้เซอร์วิส จำกัด (บริษัท นำทรัพย์พัฒนา จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 99.99)
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การค้า เพื่อให้เช่า
บริษัท เซ็นทรัลเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการด้านสาธารณูปโภค ภายในศูนย์การค้า
บริษัท หลังสวน เรียลตี้ จำกัด ประกอบธุรกิจก่อสร้างคอนโดมิเนียมเพื่อขายสิทธิ การเช่าห้องชุดพักอาศัยและก่อสร้างอาคารร้านค้าเพื่อขาย
บริษัท เซ็นทรัลฟู้ดอเวนิว จำกัด ประกอบธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่ม
บริษัท โฟกัส โฮลดิ้ง จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2538 เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538 บริษัทยังมิได้ ดำเนินพาณิชยกิจ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ชลบุรี จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ซี อาร์ เวนเจอร์ จำกัด) ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2538 เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคาร ศูนย์การค้า เพื่อให้เช่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
- 2 -
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา เชียงใหม่ จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2538 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่าและศูนย์อาหาร
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา โคราช จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2539 เพื่อประกอบธุรกิจศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
บริษัท แก่นร่วมกร จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2538 เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 บริษัทยังมิได้ ดำเนินพาณิชยกิจ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ไนน์ สแควร์ จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2539 เพื่อประกอบธุรกิจศูนย์การค้า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 บริษัทยังมิได้ดำเนิน พาณิชยกิจ
บริษัทนำทรัพย์พัฒนา จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2536 เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538 บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
บริษัท นำทรัพย์พัฒนาเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2536 เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการด้านสาธารณูปโภคภายในศูนย์การค้า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538 บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
รายการบัญชีที่มีสาระสำคัญระหว่างบริษัทและบริษัทย่อย ซึ่งรวมอยู่ในงบการเงิน ระหว่างกาลรวมนี้ได้แสดงหักกลบลบกันแล้ว
2. รายการบัญชีกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
บริษัทมีรายการบัญชีส่วนหนึ่งเกิดขึ้นกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน บริษัทเหล่านี้เกี่ยวข้องกัน โดยมีผู้ถือหุ้น และ/หรือ กรรมการร่วมกัน ผลของรายการดังกล่าวได้แสดงไว้ในงบการเงินตาม มูลฐาน ที่ตกลงร่วมกันโดยกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
- 3 -
3. กำไรต่อหุ้น
กำไรต่อหุ้นคำนวณโดยการหารกำไรสุทธิด้วยจำนวนหุ้น ณ วันที่ในงบดุล บริษัท ไม่ได้แสดงกำไรต่อหุ้นแบบลดลงเต็มที่เปรียบเทียบสำหรับงวดบัญชีสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2539 เนื่องจากไม่มีนัยสำคัญ
4. สัญญา
4.1 สัญญาเช่าระยะยาว
บริษัทมีสัญญาเช่าที่ดินสอง (2) ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่งเพื่อดำเนินการ ก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญาเช่าทั้งสอง (2) ฉบับมีอายุสามสิบ (30) ปี (จนถึงเดือนธันวาคม 2566 และเดือนธันวาคม 2567) ตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่าย ค่าเช่าล่วงหน้าเป็นเงินรวม ประมาณ 439 ล้านบาท บริษัทย่อยมีสัญญาเช่าที่ดินสี่ (4) ฉบับกับบริษัทในประเทศแห่งหนึ่ง กลุ่มบุคคล และบุคคลธรรมดาเพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญาเช่าสาม (3) ฉบับมีอายุสามสิบ (30) ปี และอีกหนึ่ง (1) ฉบับมีอายุสาม (3) ปี (จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2542 เดือนสิงหาคม 2568 เดือนพฤษภาคม 2570 และเดือนกุมภาพันธ์ 2572) ตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทย่อยจะต้องจ่ายค่าเช่า ล่วงหน้าและเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 486.6 ล้านบาท และ 298.6 ล้านบาท ตามลำดับ และค่าเช่าเป็นรายเดือนประมาณปีละ 3 ล้านบาท ถึง 3.4 ล้านบาท บริษัทย่อย จ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นเงินรวมประมาณ 187.6 ล้านบาท และ 108.3 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538 ตามลำดับ และจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงินรวมประมาณ 277.5 ล้านบาท
และ 210 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538 ตามลำดับ สัญญาดังกล่าวสามารถต่ออายุ ต่อไปได้อีกโดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าหนึ่ง (1) ปี ก่อนครบอายุการเช่า บริษัทและบริษัท ย่อยจะมอบกรรมสิทธิ์ ในอาคารและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าวให้กับผู้ให้เช่าเมื่อสัญญาหมดอายุลง
บริษัทมีสัญญาเช่าช่วงที่ดินหนึ่ง (1) ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่งเพื่อดำเนิน การก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญานี้มีอายุยี่สิบเอ็ด (21) ปี หก (6) เดือน (จนถึงเดือนเมษายน 2558) ตามเงื่อนไขของสัญญาบริษัทจะต้องจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงินรวมประมาณ 62 ล้านบาท และค่าเช่าเป็นรายเดือนตามอัตราที่ระบุในสัญญาปีละประมาณ 2 ล้านบาท ถึง 10 ล้านบาท
- 4 -
บริษัทและบริษัทย่อยมีสัญญาจองเพื่อเช่าพื้นที่ภายในอาคารศูนย์การค้าหนึ่ง (1) ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง สัญญานี้มีอายุสามสิบ (30) ปี และสามารถต่ออายุต่อไปได้อีก ตาม เงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าและเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงินประมาณ 155 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538 บริษัทจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงินรวม ประมาณ 148 ล้านบาท และ 109 ล้านบาท ตามลำดับ
บริษัทย่อยมีสัญญาเช่าพื้นที่กับบริษัทในประเทศแห่งหนึ่งเพื่อประกอบธุรกิจศูนย์การค้า สัญญานี้มีอายุสามสิบ (30) ปี (จนถึงเดือนมิถุนายน 2573) ตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่าย ค่าเช่าล่วงหน้าเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 850 ล้านบาท และ ค่าเช่าเป็นรายเดือนประมาณปีละ 6 ล้านบาท ถึง 12 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 บริษัทย่อยจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นจำนวนเงิน รวมประมาณ 141 ล้านบาท บริษัทย่อยจะมอบกรรมสิทธิ์ในส่วนปรับปรุงอาคารดังกล่าวให้กับผู้ให้เช่า เมื่อสัญญาหมดอายุลง
4.2 สัญญาต่างตอบแทน
ตามเงื่อนไขของสัญญาระหว่างบริษัทกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง บริษัทได้รับสิทธิ ก่อสร้างอาคารบนที่ดินที่เช่าโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องกันนั้น และดำเนินการหาผลประโยชน์จากอาคารดังกล่าว จนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2551 สัญญานี้ต่ออายุได้อีกครั้งละ 10 ปี
บริษัทต้องชำระค่าตอบแทนเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 96,272,000 บาท โดยแบ่งชำระ เป็นงวดต่าง ๆ กัน จนถึง พ.ศ. 2551 บริษัทมีนโยบายบันทึกค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายตามอายุ ของสัญญา
4.3 สัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิ
บริษัทและบริษัทย่อยมีสัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิหลายฉบับเพื่อรับจองห้องภายใน อาคารศูนย์การค้าของโครงการปิ่นเกล้า พัทยา รามอินทราและพระรามสาม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538 บริษัทได้รับเงินประกันการจองสิทธิดังกล่าวจำนวนรวมประมาณ 133.4 ล้านบาท และ 99 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งแสดงไว้ในงบดุลภายใต้บัญชี เงินค้ำประกันสิทธิเพื่อการเช่า
- 5 -
5. หุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตราต่างประเทศ
ในเดือนเมษายน 2539 บริษัทออกหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตราต่างประเทศ จำหน่ายในต่างประเทศจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ (แบ่งเป็น 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 เหรียญสหรัฐ) มีอายุห้า (5) ปี จนถึงเดือนเมษายน 2544 หุ้นกู้นี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.75 ต่อปี และมีสิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในอัตราส่วน 1 หุ้นกู้ต่อ 245 หุ้นสามัญ ในราคาหุ้นละ 103 บาท และสามารถใช้สิทธิแปลงสภาพได้ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2539 ถึงวันที่ 27 มีนาคม 2544 นอกจากนี้ บริษัทสามารถใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้บางส่วนหรือทั้งหมดในราคาที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน ในการนี้บริษัท ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดบางประการที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน
6. ภาระผูกพัน
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538 บริษัทและบริษัทย่อยมีภาระผูกพันที่จะต้อง จ่ายค่าก่อสร้างอาคาร ระบบสาธารณูปโภคและระบบต่าง ๆ ค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าออกแบบควบคุมและ บริหารงานสำหรับโครงการต่าง ๆ เป็นเงินรวมประมาณ 929.2 ล้านบาท และ 488 ล้านบาท ตามลำดับ
7. วงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538 บริษัทย่อยมีวงเงินกู้ยืมระยะยาวจาก ธนาคารในประเทศหนึ่ง (1) แห่ง สำหรับโครงการของบริษัทย่อย โดยมียอดคงเหลือที่ยังไม่ได้เบิกมาใช้ อีกเป็นจำนวนเงินประมาณ 1,125 ล้านบาท และ 1,280 ล้านบาท ตามลำดับ
8. เหตุการณ์ภายหลังวันที่ในงบการเงินระหว่างกาลรวม
บริษัทย่อยแห่งหนึ่งได้มีมติพิเศษลงวันที่ 5 มิถุนายน 2539 ให้เปลี่ยนชื่อบริษัท จากเดิมชื่อ บริษัท ขอนแก่น บิ๊กซี จำกัด เป็น บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ขอนแก่น จำกัด บริษัทย่อยได้ จดทะเบียนการเปลี่ยนชื่อดังกล่าวกับกระทรวงพาณิชย์แล้วเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2539