15 พฤษภาคม 2540
งบการเงิน CPN-CONSO ไตรมาสที่ 1/1997
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
-----------------------------------------------------------------
งบการเงินระหว่างกาลรวม
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2540 และ 2539
และ
รายงานของผู้สอบบัญชี
-----------------------------------------------------------------
รายงานของผู้สอบบัญชี
เสนอ คณะกรรมการบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุลรวม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2540 และ 2539 และงบกำไรขาดทุน
รวมสำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัท
ย่อยตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย
การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ
ระบบในการจัดทำงบการเงิน การใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินและ
การสอบถามเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทางการเงินและบัญชี ซึ่งการสอบทานนี้มีขอบเขตจำกัด
กว่าการตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไปเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้น
ข้าพเจ้าจึงไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินที่สอบทานได้
ข้าพเจ้าไม่พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญซึ่งควรนำมาปรับปรุงงบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ให้เป็นไป
ตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปจากการสอบทานของข้าพเจ้าดังกล่าวข้างต้น
(นายไพฑูรย์ ทวีผล)
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
ทะเบียนเลขที่ 3035
กรุงเทพมหานคร
2 พฤษภาคม 2540
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
งบดุลรวม
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2540 และ 2539
สิ น ท รั พ ย์
พันบาท
2540 2539
สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินสดและเงินฝากธนาคาร 44,291 26,421
เงินลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงิน 260,253 39,017
ลูกหนี้การค้า 93,242 90,731
ลูกหนี้ค่าตอบแทนการเช่าระยะยาว 101,556 267,995
เงินลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียน 52,567 160,224
ลูกหนี้บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน (หมายเหตุ 2) 105,614 107,340
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 106,285 56,112
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 763,808 747,840
มูลค่างานที่เสร็จยังไม่ได้เรียกเก็บ 109,659 76,253
ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ - อาคารชุดพักอาศัย
และอาคารร้านค้า - สุทธิ 47,335 48,007
เงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน (หมายเหตุ 2) 147,360 129,289
เงินลงทุนในหุ้นทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน - ราคาทุน 394,177 311,644
สินทรัพย์เพื่อให้เช่า - ราคาทุนและราคาประเมินสุทธิ
จากค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายตัดบัญชีสะสม
(หมายเหตุ 7) 9,481,321 7,883,101
เครื่องตกแต่งและเครื่องใช้สำนักงาน - ราคาทุนสุทธิ
จากค่าเสื่อมราคาสะสม 101,204 92,570
สินทรัพย์อื่น
เงินค้ำประกันเพื่อสิทธิการเช่า (หมายเหตุ 7.1) 459,189 351,370
ค่าธรรมเนียมจัดจำหน่ายหุ้นทุนและหุ้นกู้แปลงสภาพ- สุทธิ 52,359 59,774
รายจ่ายตัดบัญชีและอื่น ๆ - สุทธิ 137,609 101,228
รวมสินทรัพย์อื่น 649,157 512,372
รวมสินทรัพย์ 11,694,021 9,801,076
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
งบดุลรวม
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2540 และ 2539
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
พันบาท
2540 2539
หนี้สินหมุนเวียน
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากธนาคาร (หมายเหตุ 4) 532,236 443,182
เงินกู้ยืมระยะสั้น - 785,900
เจ้าหนี้ค่าก่อสร้าง 67,553 150,644
เจ้าหนี้บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน (หมายเหตุ 2) 6,855 43,278
ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย 146,588 106,256
เงินสดปันผลค้างจ่าย 150,000 62
ส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี
(หมายเหตุ 5) - 361,631
ภาษีเงินได้ค้างจ่าย 147,068 105,170
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 191,625 177,862
รวมหนี้สินหมุนเวียน 1,241,925 2,173,985
เงินกู้ยืมจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกันและกรรมการ (หมายเหตุ 2) 69,444 99,862
เงินกู้ยืมระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนด
ชำระในหนึ่งปี (หมายเหตุ 5) 1,751,130 733,850
หุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตราต่างประเทศ (หมายเหตุ 6) 1,341,288 -
เงินมัดจำจากลูกค้า 528,562 455,561
เงินค้ำประกันเพื่อสิทธิการเช่า (หมายเหตุ 7.3) 198,928 112,891
รายได้ค่าเช่าและบริการรับล่วงหน้า - สุทธิ 2,340,492 2,507,500
รวมหนี้สิน 7,471,769 6,083,649
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทย่อย 776,331 508,751
ส่วนของผู้ถือหุ้น 3,445,921 3,208,676
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 11,694,021 9,801,076
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
งบกำไรขาดทุนรวม
สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2540 และ 2539
พันบาท
2540 2539
รายได้ (หมายเหตุ 2)
รายได้ค่าเช่าและบริการ 459,503 383,435
รายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่ม 60,113 43,625
รายได้จากการขายสิทธิการเช่าอาคารชุดพักอาศัย - 5,859
ดอกเบี้ยรับ 69,708 28,672
รายได้อื่น 31,232 23,129
รวมรายได้ 620,556 484,720
ต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ต้นทุนการเช่าและบริการ (หมายเหตุ 2) 182,801 154,040
ต้นทุนขายอาหารและเครื่องดื่ม (หมายเหตุ 2) 47,745 35,475
ต้นทุนการขายสิทธิการเช่าอาคารชุดพักอาศัย - 5,188
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหาร (หมายเหตุ 2) 109,883 65,772
ดอกเบี้ยจ่าย 59,546 30,087
ภาษีเงินได้ 68,545 60,105
รวมต้นทุนและค่าใช้จ่าย 468,520 350,667
กำไรก่อนส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 152,036 134,053
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในกำไรของบริษัทย่อย (779) (351)
กำไรสุทธิ 151,257 133,702
กำไรต่อหุ้น (บาท) 1.51 1.34
โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม
วันที่ 31 มีนาคม 2540 และ 2539
1. หลักเกณฑ์การจัดทำงบการเงินระหว่างกาลรวม
งบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ได้รวมบัญชีต่าง ๆ ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด
(มหาชน) บริษัท เซ็นทรัลเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด บริษัทหลังสวน เรียลตี้ จำกัด บริษัท เซ็นทรัลฟู้ด
อเวนิว จำกัด บริษัท โฟกัส โฮลดิ้ง จำกัด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา เชียงใหม่ จำกัด บริษัท เซ็นทรัล
พัฒนา โคราช จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นร้อยละ 99.99 บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ขอนแก่น จำกัด ซึ่งบริษัท
ถือหุ้นร้อยละ 61.743 บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ชลบุรี จำกัด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ไนน์ สแควร์ จำกัด
ซึ่งบริษัทถือหุ้นร้อยละ 60 บริษัท นำทรัพย์พัฒนา จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นร้อยละ 50 และบริษัท นำทรัพย์
พัฒนา เรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด (บริษัท นำทรัพย์พัฒนา จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 99.99)
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การ
ค้าเพื่อให้เช่า
บริษัท เซ็นทรัลเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการด้านสาธารณูปโภค
ภายในศูนย์การค้า
บริษัท หลังสวน เรียลตี้ จำกัด ประกอบธุรกิจก่อสร้างคอนโดมิเนียมเพื่อขายสิทธิ
การเช่าห้องชุดพักอาศัยและก่อสร้างอาคารร้านค้าเพื่อขาย
บริษัท เซ็นทรัลฟู้ดอเวนิว จำกัด ประกอบธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่ม
บริษัท โฟกัส โฮลดิ้ง จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์
2538 เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2540 บริษัท
ยังมิได้ ดำเนินพาณิชยกิจ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ชลบุรี จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ซี อาร์ เวนเจอร์ จำกัด)
ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2538 เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การ
ค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2540 บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
- 2 -
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา เชียงใหม่ จำกัด ประกอบธุรกิจพัฒนาอาคารศูนย์การค้า
เพื่อให้เช่าและศูนย์อาหาร
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา โคราช จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 28
มีนาคม 2539 เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2540
บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ขอนแก่น จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท แก่นร่วมกร จำกัด)
ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2538 เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การค้า
เพื่อให้เช่า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2540 บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ไนน์ สแควร์ จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่
28 กุมภาพันธ์ 2539 เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 31 มีนาคม2540
บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
บริษัท นำทรัพย์พัฒนา จำกัด จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2536
เพื่อประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2540 บริษัทยังมิได้ดำเนิน
พาณิชยกิจ
บริษัท นำทรัพย์พัฒนาเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่
16 พฤศจิกายน 2536 เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการด้านสาธารณูปโภคภายในศูนย์การค้า ณ วันที่ 31
มีนาคม 2540 บริษัทยังมิได้ดำเนินพาณิชยกิจ
รายการบัญชีที่มีสาระสำคัญระหว่างบริษัทและบริษัทย่อย ซึ่งรวมอยู่ในงบการเงิน
ระหว่างกาลรวมนี้ได้แสดงหักกลบลบกันแล้ว
2. รายการบัญชีกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
สินทรัพย์ หนี้สิน รายได้ ต้นทุนและค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งเกิดขึ้นกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
บริษัทเหล่านี้เกี่ยวข้องกันโดยมีผู้ถือหุ้น และ/หรือ กรรมการร่วมกัน ผลของรายการดังกล่าว ได้แสดงไว้
ในงบการเงินตาม มูลฐานที่ตกลงร่วมกันโดยกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
- 3 -
3. กำไรต่อหุ้น
กำไรต่อหุ้นคำนวณโดยการหารกำไรสุทธิด้วยจำนวนหุ้นที่ออก ณ วันที่
ในงบดุล บริษัทไม่ได้แสดงกำไรต่อหุ้นแบบลดลงเต็มที่เปรียบเทียบสำหรับงวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุดวันที่
31 มีนาคม 2540 เนื่องจากมีจำนวนที่สูงกว่ากำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน
4. เงินกู้ยืมจากธนาคาร
บริษัทมีเงินกู้ยืมกับธนาคารในต่างประเทศหลายแห่งเป็นจำนวนเงินรวมประ
มาณ492 ล้านบาท (19 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภายใต้สัญญาเงินกู้ดังกล่าวบริษัทได้ให้คำรับรองในเรื่องต่างๆ
เช่น การรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิ การกำหนดจำนวนส่วนของผู้ถือหุ้นต้องได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้กู้ถ้าประกาศจ่ายเงินปันผลเกินกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิแต่ละปี เป็นต้น
บริษัทได้ประกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยน
โดยทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าจำนวน 15 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา
5. เงินกู้ยืมระยะยาว
บริษัทมีเงินกู้ยืมระยะยาวกับธนาคารในต่างประเทศแห่งหนึ่งเป็นจำนวนเงินรวม
ประมาณ 104 ล้านบาท (4 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา) ภายใต้สัญญาดังกล่าว บริษัทได้ให้คำรับรอง
ในเรื่องต่าง ๆ เช่น การไม่เพิ่มภาระผูกพันในทรัพย์สินที่เปิดดำเนินการแล้วของบริษัทและบริษัทย่อย
การกำหนดอัตราการจ่ายเงินปันผลจะต้องไม่เกินกำไรสุทธิของงบการเงินรวม เป็นต้น
บริษัททำสัญญาเงินกู้ร่วมกับสถาบันการเงินในต่างประเทศเป็นจำนวนเงินรวมประ
มาณ 772 ล้านบาท (30 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา) ภายใต้สัญญาเงินกู้ร่วมดังกล่าว บริษัทได้ให้คำรับ
รองในเรื่องต่าง ๆ เช่น การรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น การรักษาอัตราส่วน การกู้ยืมต่อ
ส่วนของผู้ถือหุ้นโดยใช้ข้อมูลจากงบการเงินรวมและการไม่เพิ่มภาระผูกพันในทรัพย์สินที่เปิดดำเนินการ
แล้วของบริษัทและบริษัทย่อย เป็นต้น บริษัทได้ประกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงใน
อัตราแลกเปลี่ยน โดย ณ วันที่ในงบดุลบริษัททำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าจำนวน
15ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาและได้ทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศเพิ่มเติมอีก 15 ล้านเหรียญสหรัฐ
อเมริกา ให้ครบเต็มจำนวนสัญญาเงินกู้ร่วมลงวันที่ 29 เมษายน 2540
- 4 -
บริษัทย่อยมีเงินกู้ยืมระยะยาวกับธนาคารในประเทศแห่งหนึ่ง ในวงเงิน 1,500
ล้านบาท โดยมีกำหนดชำระคืนในเวลาเจ็ด (7) งวด ๆ ละเท่าๆ กันทุกงวด 6 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือน
เมษายน 2541 ค้ำประกันโดยการจำนองที่ดินของบริษัทพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่ในขณะนี้และ/หรือ ที่
จะมีขึ้นในอนาคตบนที่ดินดังกล่าว และกรรมการของบริษัทย่อยบางท่าน ณ วันที่ 31มีนาคม 2540
บริษัทย่อยมีวงเงินกู้ยืมระยะยาวคงเหลือที่ยังไม่ได้เบิกมาใช้เป็นจำนวนเงินประมาณ625 ล้านบาท
6. หุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตราต่างประเทศ
ในเดือนเมษายน 2539 บริษัทได้ออกหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตราต่างประเทศซึ่ง
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งลัคเซมเบอร์กเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 50 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา
(แบ่งเป็น 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา) มีอายุห้า (5) ปี (จนถึงเดือน
เมษายน 2544) หุ้นกู้นี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.75 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกปีจนกว่าจะครบกำหนดไถ่
ถอนในวันที่ 11 เมษายน 2544 ผู้ถือหุ้นสามารถใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญของบริษัทในอัตรา
ส่วน1 หุ้นกู้ต่อ 245 หุ้นสามัญในราคาแปลงสภาพหุ้นละ 103 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนคงที่เมื่อ
แปลงสภาพ 1 เหรียญสหรัฐอเมริกาเท่ากับ 25.235 บาท(ราคาไถ่ถอนอาจมีการเปลี่ยนแปลงทั้งนี้ขึ้น
อยู่กับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นตามที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขการออกหุ้นกู้) และสามารถใช้สิทธิแปลงสภาพได้
ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2539 ถึงวันที่ 27 มีนาคม 2544 นอกจากนี้บริษัทสามารถใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้
บางส่วนหรือทั้งหมดในราคาบวกส่วนเพิ่มการไถ่ถอน (RedemptionPremium) ณ วันใดวันหนึ่งภายหลัง
วันที่ 11 เมษายน 2542 ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ หุ้นกู้ที่คงเหลืออยู่ ณ วันที่ครบกำหนดไถ่
ถอน จะถูกไถ่ถอนในราคาหุ้นละ 1,320 เหรียญสหรัฐอเมริกาณ วันที่ 31 มีนาคม 2540 บริษัทบันทึกตั้ง
สำรอง ค่าใช้จ่ายทางการเงินสำหรับส่วนเพิ่มจำนวน 320เหรียญสหรัฐอเมริกาต่อหุ้น ที่จะต้องจ่ายเมื่อ
ครบกำหนดไถ่ถอนไว้ในบัญชีเป็นจำนวนกึ่งหนึ่งของส่วนเพิ่มดังกล่าว โดยคำนวณตามวิธีเส้นตรงตลอด
อายุของหุ้นกู้ เนื่องจากฝ่ายบริหารเห็นว่าราคาตลาดของหุ้นสามัญในปัจจุบันเป็นช่วงที่ภาวะการณ์
ทางตลาดหลักทรัพย์ตกต่ำผิดปกติและช่วงเวลาการใช้สิทธิแปลงสภาพมีเวลาอีกประมาณ 4 ปี นอกจากนี้
ผลกระทบต่องบการเงินสำหรับส่วนที่ไม่ได้ตั้งสำรองไว้ไม่เป็นสาระสำคัญ
เกี่ยวเนื่องกับการออกหุ้นกู้ดังกล่าวข้างต้น บริษัทได้ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียน
เพื่อรองรับการใช้สิทธิการแปลงสภาพหุ้นกู้ของผู้ถือหุ้นกู้ด้วยจำนวน 21 ล้านหุ้น
- 5 -
7. สัญญา
7.1 สัญญาเช่าระยะยาว
บริษัทมีสัญญาเช่าที่ดินสอง (2) ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง
เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญาเช่าทั้งสอง (2) ฉบับมีอายุสามสิบ (30) ปี (จนถึงเดือน
ธันวาคม 2566 และเดือนธันวาคม 2567) สัญญาดังกล่าวสามารถต่ออายุต่อไปได้อีกโดยการแจ้งเป็น
ลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าหนึ่ง (1) ปีก่อนครบอายุการเช่า ตาม เงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่า
เช่าล่วงหน้าเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 439 ล้านบาท บริษัทย่อยมีสัญญาเช่าที่ดินสอง (2) ฉบับ
กับบริษัทในประเทศ เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญาเช่าสอง (2) ฉบับมีอายุสาม (3) ปี
และสามสิบ (30) ปี (จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2542 และเดือนกุมภาพันธ์ 2572) และมีสัญญาเช่าที่ดิน
สาม (3) ฉบับกับกลุ่มบุคคลและบุคคลธรรมดาเพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญาเช่าทั้งสาม
(3) ฉบับ มีอายุสามสิบ (30) ปี (จนถึงเดือนสิงหาคม 2568 เดือนพฤษภาคม 2570 และเดือนมิถุ
นายน 2573) ตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่า ล่วงหน้าและเงินค้ำประกันสิทธิการเช่า
เป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 631.4 ล้านบาท และ 318.6 ล้านบาท ตามลำดับ และค่าเช่าเป็นราย
เดือนประมาณปีละ 16.9 ล้านบาท ถึง 122.4 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2540บริษัทย่อยจ่ายค่า
เช่าล่วงหน้าเป็น เงินรวมประมาณ 246.6 ล้านบาท และจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นเงินรวม
ประมาณ 318.6 ล้านบาท บริษัทจะได้รับชำระคืนเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าจำนวนเงิน 20 ล้านบาท
ในปี 2540 และนับตั้งแต่ปีการเช่าที่ยี่สิบเอ็ด (21) ถึงปีการเช่าที่สามสิบ (30)สัญญาดังกล่าวสา
มารถต่ออายุต่อไปได้อีกโดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าหนึ่ง (1) ปี ก่อนครบอายุการเช่า
บริษัทและบริษัทย่อยจะมอบกรรมสิทธิ์ในอาคารและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าวให้กับผู้ให้เช่าเมื่อสัญญา
หมดอายุลง
บริษัทมีสัญญาเช่าช่วงที่ดินหนึ่ง (1) ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง
เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า สัญญานี้มีอายุยี่สิบเอ็ด (21) ปี หก (6) เดือน
(จนถึงเดือนเมษายน 2558) และสามารถต่ออายุสัญญาเช่าต่อไปได้อีกสิบ (10) ปี ตามเงื่อนไขของ
สัญญาบริษัทจะต้องจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นจำนวนเงินประมาณ 62 ล้านบาท และค่าเช่าเป็น
รายเดือนตามอัตราที่ระบุในสัญญาปีละประมาณ 2 ล้านบาท ถึง 10 ล้านบาท บริษัทจะมอบกรรมสิทธิ์
ในอาคารและสิ่งปลูกสร้าง บนที่ดินดังกล่าวให้กับผู้ให้เช่าหรือผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินเมื่อสัญญาหมดอายุลง
- 6 -
บริษัทและบริษัทย่อยมีสัญญาจองเพื่อเช่าพื้นที่ภายในอาคารศูนย์การค้า 1 ฉบับ
กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง สัญญานี้มีอายุสามสิบ (30) ปี และสามารถต่ออายุต่อไปได้อีก ตาม
เงื่อนไขของสัญญา บริษัทและบริษัทย่อยจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นจำนวนเงินประมาณ 155 ล้านบาท
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2540 บริษัทและบริษัทย่อยจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 147
ล้านบาท
บริษัทย่อยมีสัญญาเช่าพื้นที่กับบริษัทในประเทศแห่งหนึ่งเพื่อประกอบธุรกิจศูนย์
การค้า สัญญานี้มีอายุสามสิบ (30) ปี (จนถึงเดือนมิถุนายน 2573) ตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัท
จะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 850 ล้านบาท และค่าเช่าเป็นรายเดือน
ประมาณปีละ 6 ล้านบาท ถึง 21 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2540 บริษัทย่อยจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า
เป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 377 ล้านบาท บริษัทย่อยจะมอบกรรมสิทธิ์ในส่วนปรับปรุงอาคารดังกล่าว
ให้กับผู้ให้เช่าเมื่อสัญญาหมดอายุลง
7.2 สัญญาต่างตอบแทน
ตามเงื่อนไขของสัญญาระหว่างบริษัทกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง บริษัทได้
รับสิทธิก่อสร้างอาคารบนที่ดินที่เช่าโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องกันนั้น และดำเนินการหา ผลประโยชน์จาก
อาคารดังกล่าวจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2551 สัญญานี้ต่ออายุได้อีก ครั้งละสิบ (10) ปี บริษัทจะมอบ
กรรมสิทธิ์ในอาคารและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าวให้กับผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินเมื่อสัญญาหมดอายุลง
บริษัทต้องชำระค่าตอบแทนเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 96,272,000 บาท
โดยแบ่งชำระเป็นงวดต่าง ๆ กัน จนถึง พ.ศ.2551 บริษัทมีนโยบายบันทึกค่าตอบแทนดังกล่าวเป็น
ค่าใช้จ่ายตามอายุของสัญญา
7.3 สัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิ
บริษัทและบริษัทย่อยมีสัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิหลายฉบับเพื่อรับจองห้อง
ภายในอาคารศูนย์การค้าของโครงการปิ่นเกล้า รามอินทรา พัทยา พระรามสามและชลบุรี ณ วันที่ 31
มีนาคม 2540 และ 2539 บริษัทได้รับเงินประกันการจองสิทธิดังกล่าวจำนวนเงินรวมประมาณ 198.9
ล้านบาท และ 112.9 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งแสดงไว้ในงบดุลภายใต้บัญชี เงินค้ำประกันเพื่อสิทธิการเช่า
- 7 -
8. ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้า
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2540 บริษัทและบริษัทย่อยมี
8.1 ภาระผูกพันที่จะต้องจ่ายค่าออกแบบควบคุมและบริหารงานสำหรับโครงการต่าง ๆ เป็น
เงินรวมประมาณ 434.4 ล้านบาท
8.2 หนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหน้าจากการที่ธนาคารออกหนังสือค้ำประกันบริษัทให้กับองค์
การรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งจำนวนเงินรวมประมาณ 34.8 ล้านบาท
9. การจัดประเภทบัญชีใหม่
บัญชีบางบัญชีในปี 2539 ได้จัดประเภทใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการแสดงรายการ
ในงบการเงินรวมปี 2540