14 พฤศจิกายน 2540

งบการเงิน CPN ไตรมาสที่ 3/1997

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ----------------------------------------------------------------- งบการเงินระหว่างกาล สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2540 และ 2539 และ รายงานของผู้สอบบัญชี ----------------------------------------------------------------- รายงานของผู้สอบบัญชี เสนอ คณะกรรมการบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุล ณ วันที่ 30 กันยายน 2540 และ 2539 และงบกำไรขาดทุน สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลนี้ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบ ในการจัดทำงบการเงิน การใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินและการสอบ ถามเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทางการเงินและบัญชี ซึ่งการสอบทานนี้มีขอบเขตจำกัดกว่าการ ตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไปเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้นข้าพเจ้า จึงไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินที่สอบทานได้ ข้าพเจ้าได้ทราบจากฝ่ายบริหารว่า เพื่อให้สอดคล้องกับหลักความระมัดระวัง บริษัทบันทึก หนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศซึ่งไม่ได้ทำสัญญาซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าครอบคลุมไว้ ณ วัน ที่ 30 มิถุนายน 2540 โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอ้างอิงของธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ซึ่งกระทรวงการคลังได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงระบบอัตราการแลก เปลี่ยนเงินตราต่างประเทศใหม่เป็นระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวภายใต้การจัดการ ผลดังกล่าวทำ ให้หนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 218 ล้านบาท ค่าเสียหายนี้ได้แสดงเป็นรายการ พิเศษแยกต่างหากในงบกำไรขาดทุนด้วยจำนวนสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องจำนวนเงินประมาณ 65 ล้านบาท ในงวดบัญชีสามเดือนนี้บริษัทแปลงค่าหนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศซึ่งไม่ได้ทำสัญญาซื้อ เงินตราต่างประเทศล่วงหน้าครอบคลุมไว้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2540 โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ต่างประเทศอ้างอิงของธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 30 กันยายน 2540 ผลดังกล่าวทำให้ผลขาด ทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในงวดบัญชีสามเดือนนี้ (รวมขาดทุนจากการแปลงค่าหนี้สิน ที่เป็นเงินตราต่างประเทศและขาดทุนจากการจ่ายชำระค่าหนี้สินในงวดบัญชีสามเดือนนี้) เพิ่มขึ้นจาก วันที่ 30 มิถุนายน 2540 ประมาณ 524 ล้านบาท บริษัทได้แสดงผลเสียหายดังกล่าวในงบ กำไรขาดทุน - 2 - สำหรับงวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2540 เป็นรายการพิเศษด้วยจำนวนสุทธิจากกำไร ในธุรกรรมด้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นจำนวนเงินประมาณ 131 ล้านบาท และหลังจาก หักภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องจำนวนเงินประมาณ 118 ล้านบาทแยกต่างหากในงบกำไรขาดทุน อย่างไร ก็ดี ประกาศของสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทยเรื่องแนวทางปฏิบัติทางบัญชี สำหรับเหตุการณ์พิเศษกรณีผลกระทบจากการใช้ระบบแลกเปลี่ยนเงินตราแบบลอยตัว ลงวันที่ 19 กันยายน 2540 กำหนดให้บันทึกผลกระทบจากการใช้ระบบแลกเปลี่ยนเงินตราแบบลอยตัวทั้งหมดซึ่งมีจำนวนเงิน รวมประมาณ 427 ล้านบาท (ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจำนวนรวมประมาณ 742 ล้านบาท สุทธิจากกำไรในธุรกรรมด้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นจำนวนเงินประมาณ 131 ล้านบาท และหลังจากหักภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้อง จำนวนเงินประมาณ 184 ล้านบาท) ในงวดบัญชีสาม เดือนนี้และแสดงไว้เป็นรายการพิเศษแยกต่างหากในงบกำไรขาดทุน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีคำสั่งเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2540 ให้ปฏิบัติตาม ยกเว้นเรื่องที่กล่าวในย่อหน้าที่สาม ข้าพเจ้าไม่พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญอื่นซึ่งควรนำมาปรับ ปรุงงบการเงินระหว่างกาลนี้ให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปจากการสอบทานของข้าพเจ้าดัง กล่าวข้างต้น (นายไพฑูรย์ ทวีผล) ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ทะเบียนเลขที่ 3035 กรุงเทพมหานคร 4 พฤศจิกายน 2540 ยกเว้นหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล 9 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2540 ยังไม่ได้ตรวจสอบ สอบทานแล้ว บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) งบดุล ณ วันที่ 30 กันยายน 2540 และ 2539 สิ น ท รั พ ย์ พันบาท 2540 2539 สินทรัพย์หมุนเวียน เงินสดและเงินฝากธนาคาร 23,848 19,935 เงินลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงินและตั๋วแลกเงิน 445,155 - ลูกหนี้การค้า 75,569 67,681 ลูกหนี้ค่าตอบแทนการเช่าระยะยาว 29,025 51,663 เงินลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียน - สุทธิ (หมายเหตุ 4) 20,896 130,285 ลูกหนี้และเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน (หมายเหตุ 1) 150,833 670,338 สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 76,261 31,266 รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 821,587 971,168 เงินลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียน - สุทธิ (หมายเหตุ 4) 4,600 - เงินให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน (หมายเหตุ 1) 1,856,921 1,307,162 เงินลงทุนในหุ้นทุน บริษัทย่อย (วิธีส่วนได้เสีย) 1,855,575 1,290,436 บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน (วิธีราคาทุน) 356,531 307,084 รวมเงินลงทุนในหุ้นทุน 2,212,106 1,597,520 สินทรัพย์เพื่อให้เช่า - ราคาทุนสุทธิจากค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายตัดบัญชีสะสม (หมายเหตุ 7 และ 10) 3,608,338 3,706,277 เครื่องตกแต่งและเครื่องใช้สำนักงาน - ราคาทุนสุทธิ จากค่าเสื่อมราคาสะสม 53,736 46,542 สินทรัพย์อื่น เงินลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงิน (หมายเหตุ 5) 44,917 - เงินค้ำประกันเพื่อสิทธิการเช่า 139,071 142,158 ค่าธรรมเนียมจัดจำหน่ายหุ้นทุนและหุ้นกู้แปลงสภาพ - สุทธิ 45,232 60,324 ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี (หมายเหตุ 2) 887 - รายจ่ายตัดบัญชีและอื่น ๆ - สุทธิ 19,138 15,448 รวมสินทรัพย์อื่น 249,245 217,930 รวมสินทรัพย์ 8,806,533 7,846,599 โปรดดูรายงานการสอบทานงบการเงินระหว่างกาลของนายไพฑูรย์ ทวีผล ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2540 และหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล ยังไม่ได้ตรวจสอบ สอบทานแล้ว บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) งบดุล ณ วันที่ 30 กันยายน 2540 และ 2539 หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น พันบาท 2540 2539 หนี้สินหมุนเวียน เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากธนาคาร (หมายเหตุ 6 และ 9) 346,525 683,154 เงินกู้ยืมระยะสั้น - 199,917 เจ้าหนี้และเงินกู้ยืมจากบริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน (หมายเหตุ 1) 64,409 56,264 ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย 114,540 67,428 ภาษีเงินได้ค้างจ่าย - 44,465 หนี้สินหมุนเวียนอื่น 81,061 100,166 รวมหนี้สินหมุนเวียน 606,535 1,151,394 เงินกู้ยืมระยะยาว (หมายเหตุ 7 และ 9) 919,383 - หุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตราต่างประเทศ (หมายเหตุ 8 และ 9) 1,917,429 1,273,500 เงินมัดจำจากลูกค้า 446,452 414,370 รายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้า - สุทธิ (หมายเหตุ 1) 1,580,798 1,677,519 รวมหนี้สิน 5,470,597 4,516,783 ส่วนของผู้ถือหุ้น - สุทธิ (หมายเหตุ 4) 3,335,936 3,329,816 รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 8,806,533 7,846,599 โปรดดูรายงานการสอบทานงบการเงินระหว่างกาลของนายไพฑูรย์ ทวีผล ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2540 และหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล ยังไม่ได้ตรวจสอบ สอบทานแล้ว บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) งบกำไรขาดทุน สำหรับแต่ละงวดบัญชีสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2540 และ 2539 พันบาท งวดบัญชีสามเดือน งวดบัญชีเก้าเดือน 2540 2539 2540 2539 รายได้ (หมายเหตุ 1) รายได้ค่าเช่าและบริการ 331,690 319,099 1,009,915 954,602 ส่วนแบ่งในผลกำไร (ขาดทุน ) จากเงิน ลงทุนในบริษัทย่อย 4,607 (3,736) 48,057 3,308 ดอกเบี้ยรับ 101,292 58,270 237,444 143,921 รายได้อื่น 29,025 33,608 83,476 79,950 รวมรายได้ 466,614 407,241 1,378,892 1,181,781 ต้นทุนและค่าใช้จ่าย ต้นทุนการเช่าและบริการ (หมายเหตุ 1) 116,240 98,309 326,209 294,445 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหาร (หมายเหตุ 1) 61,674 56,522 228,197 175,270 ดอกเบี้ยจ่าย 56,545 33,533 149,413 96,641 ภาษีเงินได้ (หมายเหตุ 2) 68,291 64,086 196,752 177,584 รวมต้นทุนและค่าใช้จ่าย 302,750 252,450 900,571 743,940 กำไรก่อนรายการพิเศษและผลสะสม จากการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชี 163,864 154,791 478,321 437,841 รายการพิเศษ (หมายเหตุ 9) (274,781) - (427,403) - ผลสะสมจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการ บันทึกภาษีเงินได้ที่มีต่อปีก่อน ๆ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2539 (หมายเหตุ 2) - - 5,503 - กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (110,917) 154,791 56,421 437,841 ยังไม่ได้ตรวจสอบ สอบทานแล้ว - 2 - พันบาท งวดบัญชีสามเดือน งวดบัญชีเก้าเดือน 2540 2539 2540 2539 กำไร (ขาดทุน) ต่อหุ้น (บาท) : กำไรก่อนรายการพิเศษและผลสะสม จากการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชี 1.64 1.55 4.78 4.38 รายการพิเศษ (หมายเหตุ 9) (2.75) - (4.27) - ผลสะสมจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการ บันทึกภาษีเงินได้ที่มีต่อปีก่อน ๆ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2539 (หมายเหตุ 2) - - 0.05 - กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (1.11) 1.55 0.56 4.38 โปรดดูรายงานการสอบทานงบการเงินระหว่างกาลของนายไพฑูรย์ ทวีผล ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2540 และหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล วันที่ 30 กันยายน 2540 และ 2539 1. รายการบัญชีกับบริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน บริษัทมีบัญชีส่วนหนึ่งเกิดขึ้นกับบริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน บริษัทเหล่านี้ เกี่ยวข้องกันโดยมีผู้ถือหุ้น และ/หรือ กรรมการร่วมกัน ผลของรายการดังกล่าวได้แสดงไว้ในงบการ เงินตามมูลฐานที่ตกลงร่วมกันโดยกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน รายการรายได้และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับบริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกันในระ หว่าง งวดบัญชีเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน สรุปได้ดังนี้ บริษัทย่อย (พันบาท) บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน (พันบาท) 2540 2539 2540 2539 รายได้ 103,353 95,268 135,147 119,703 ค่าใช้จ่าย 6,923 3,366 19,513 15,075 ยอดลูกหนี้และเจ้าหนี้กับบริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ณ วันที่ 30 กันยายน สรุปได้ดังนี้ บริษัทย่อย (พันบาท) บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน (พันบาท) 2540 2539 2540 2539 ลูกหนี้และเงินให้กู้ยืม 1,797,127 1,800,412 210,627 177,088 เจ้าหนี้และเงินกู้ยืม 59,049 56,264 5,360 - - 2 - 2. การเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีภาษีเงินได้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2540 บริษัทได้ถือเป็นหลักปฏิบัติในการบันทึกผลกระทบ ต่อภาษีเงินได้ของรายการบัญชีในงวดบัญชีที่รายการดังกล่าวได้ถือหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณกำไร สุทธิตามบัญชี โดยไม่คำนึงว่ารายการดังกล่าวจะถือหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษี เงินได้เมื่อใด ดังนั้นภาษีเงินได้ส่วนที่เกี่ยวกับค่า ใช้จ่ายที่ไม่อาจถือหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้ในปี ปัจจุบันจะบันทึกไว้เป็นภาษีเงินได้รอตัดบัญชีและแสดงไว้ในงบดุล และ จะตัดบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายในงวด บัญชีที่ค่าใช้จ่ายดังกล่าวถือหักได้แล้วตามประมวลรัษฎากร โดยเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 25 40 เป็นต้นไป ผลจากการบันทึกภาษีเงินได้รอตัด บัญชีทำให้กำไร (ขาดทุน) สุทธิสำหรับงวดบัญชีสาม เดือนและเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2540 ลดลง (เพิ่มขึ้น) เป็นจำนวนเงินประมาณ (13.0) ล้านบาท และ 4.6 ล้านบาท หรือ (0.13) บาท และ 0.05 บาท ต่อหุ้น ตามลำดับ และบริษัทได้นำ ผลสะสมจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกภาษีเงินได้ที่มีต่อปีก่อน ๆ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2539 จำนวนเงินประมาณ 5.5 ล้านบาท หรือ 0.06 บาท ต่อหุ้น ไปรวมคำนวณกำไรสุทธิโดยแสดง อยู่ภายใต้รายการผลสะสมจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกภาษีเงินได้ สำหรับงวดบัญชีเก้าเดือนสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2540 3. กำไร (ขาดทุน) ต่อหุ้น กำไร (ขาดทุน) ต่อหุ้นคำนวณโดยการหารกำไร (ขาดทุน) สุทธิด้วยจำนวน หุ้นที่ออก ณ วันที่ในงบดุล บริษัทไม่ได้แสดงกำไรต่อหุ้นแบบลดลงเต็มที่เปรียบเทียบ เนื่องจากมี จำนวนสูงกว่ากำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 4. เงินลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียน ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2540 ได้มีมติให้เปลี่ยนวัตถุประสงค์ เงินลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนบางส่วน ซึ่งมีราคาตลาด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2540 จำนวน ประมาณ 19.75 ล้านบาท จากถือเป็นเงินลงทุนระยะสั้นไปเป็นเงินลงทุนระยะยาวตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2540 เป็นต้นไป ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนดังกล่าวจำนวนประมาณ 15.15 ล้านบาท ได้รวมไว้ในส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุล - 3 - 5. เงินลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงิน เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2540 กระทรวงการคลังได้ประกาศให้บริษัทเงินทุน และบริษัท หลักทรัพย์ในประเทศหลายแห่งระงับการดำเนินกิจการเป็นการชั่วคราว ณ วันที่ 30 กัน ยายน 2540 บริษัทมีเงินฝากในตั๋วสัญญาใช้เงินกับบริษัทเงินทุนดังกล่าวแห่งหนึ่งจำนวนเงินประมาณ 44. 9 ล้านบาท บริษัทแสดงตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวไว้ภายใต้ สินทรัพย์อื่น ในงบดุลเนื่องจากคาดว่าจะได้ รับคืนเงินในระยะเวลาเกินกว่า 1 ปี 6. เงินกู้ยืมจากธนาคาร บริษัทมีเงินกู้ยืมกับธนาคารในต่างประเทศหลายแห่งเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 3 30 ล้านบาท (9 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา) ภายใต้สัญญาเงินกู้ดังกล่าวบริษัทได้ให้คำรับรองใน เรื่องต่าง ๆ เช่น การรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิ การกำหนดจำนวนส่วนของผู้ถือหุ้น ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้กู้ถ้าประกาศจ่ายเงินปันผลเกินกว่าร้อยละ 50 ของกำไร สุทธิแต่ละปี เป็นต้น 7. เงินกู้ยืมระยะยาว บริษัทมีเงินกู้ยืมระยะยาวกับธนาคารในต่างประเทศแห่งหนึ่งเป็นจำนวนเงินรวม ประมาณ 146.5 ล้านบาท ( 4 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา) ภายใต้สัญญาเงินกู้ดังกล่าว บริษัทได้ให้คำ รับรองในเรื่องต่าง ๆ เช่น การไม่เพิ่มภาระผูกพันในทรัพย์สินที่เปิดดำเนินการแล้วของบริษัทและบริษัท ย่อย การกำหนดอัตราการจ่ายเงินปันผลจะต้องไม่เกินกำไรสุทธิของงบการเงินรวม เป็นต้น บริษัททำสัญญาเงินกู้ร่วมกับสถาบันการเงินในต่างประเทศเป็นจำนวนเงินรวมประ มาณ 773 ล้านบาท (30 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา) ภายใต้สัญญาเงินกู้ร่วมดังกล่าว บริษัทได้ให้คำ รับรองในเรื่องต่าง ๆ เช่น การรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น การรักษาอัตราส่วนการกู้ยืม ต่อส่วนของผู้ถือหุ้นโดยใช้ข้อมูลจากงบการเงินรวมและการไม่เพิ่มภาระผูกพันในทรัพย์สินที่เปิดดำเนินการ แล้วของบริษัทและบริษัทย่อย เป็นต้น บริษัทได้ประกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น จากการเปลี่ยนแปลง ในอัตราแลกเปลี่ยน โดยทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าจำนวน 30 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา - 4 - 8. หุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตราต่างประเทศ ในเดือนเมษายน 2539 บริษัทได้ออกหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตราต่าง ประเทศซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งลัคเซมเบอร์กเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 50 ล้านเหรียญ สหรัฐอเมริกา (แบ่งเป็น 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา) มีอายุห้า (5) ปี ( จนถึงเดือน เมษายน 2544) หุ้นกู้นี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.75 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกปีจนกว่าจะครบ กำหนดไถ่ถอนในวันที่ 11 เมษายน 2544 ผู้ถือหุ้นสามารถใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญของบริษัท ในอัตราส่วน 1 หุ้นกู้ต่อ 245 หุ้นสามัญในราคาแปลงสภาพหุ้นละ 103 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ เมื่อแปลงสภาพ 1 เหรียญสหรัฐอเมริกาเท่ากับ 25.235 บาท (ราคาไถ่ถอนอาจมีการเปลี่ยนแปลงทั้ง นี้ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นตามที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขการออกหุ้นกู้) และสามารถใช้สิทธิแปลงสภาพ ได้ตั้งแต่ วันที่ 11 มิถุนายน 2539 ถึงวันที่ 27 มีนาคม 2544 นอกจากนี้บริษัทสามารถใช้สิทธิไถ่ถอน หุ้นกู้บางส่วนหรือทั้งหมดในราคาบวกส่วนเพิ่มการไถ่ถอน(Redemption Premium) ณ วันใดวันหนึ่งภาย หลังวันที่ 11 เมษายน 2542 ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ หุ้นกู้ที่คงเหลืออยู่ ณ วันที่ครบกำหนด ไถ่ถอน จะถูกไถ่ถอนในราคาหุ้นละ 1,320 เหรียญสหรัฐอเมริกา ณ วันที่ 30 กันยายน 2540 บริษัท บันทึกตั้งสำรองค่าใช้จ่ายทางการเงินสำหรับส่วนเพิ่มจำนวน 320 เหรียญสหรัฐอเมริกาต่อหุ้น ที่จะต้อง จ่ายเมื่อครบกำหนดไถ่ถอนไว้ในบัญชีเป็นจำนวนร้อยละห้าสิบของส่วนเพิ่มการไถ่ถอนดังกล่าว โดย คำนวณตามวิธีเส้นตรงตลอดอายุของหุ้นกู้จำนวนเงินประมาณ 86 ล้านบาท ฝ่ายบริหารตระหนักถึงสถาน การณ์ทางเศรษฐกิจซึ่งส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงในราคาหุ้นของบริษัท อย่างไรก็ดี ฝ่ายบริหารคาดว่า ในไตรมาส 4 ของปี 2540 สถานการณ์ต่างๆ จะชัดเจนยิ่งขึ้น อันจะเป็นข้อมูลในการสรุปนโยบาย เกี่ยวกับการตั้งสำรองเพิ่มเต็มจำนวนได้ เกี่ยวเนื่องกับการออกหุ้นกู้ดังกล่าวข้างต้น บริษัทได้ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียน เพื่อรองรับการใช้สิทธิการแปลงสภาพหุ้นกู้ของผู้ถือหุ้นกู้ด้วยจำนวน 21 ล้านหุ้น - 5 - 9. ขาดทุนจากการใช้ระบบแลกเปลี่ยนเงินตราแบบลอยตัว เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 กระทรวงการคลังได้ประกาศเปลี่ยนแปลงระบบอัตรา การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่อิงตะกร้าเงินมาใช้ระบบอัตรา แลกเปลี่ยนแบบลอยตัวภายใต้ การจัดการ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักความระมัดระวังบริษัทได้บันทึก หนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศซึ่งไม่ได้ทำสัญญาซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าครอบคลุมไว้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2540 โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอ้างอิงของธนาคาร แห่งประเทศ ไทย ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ผลดังกล่าวทำให้หนี้สินที่เป็นเงินตรา ต่างประเทศ เพิ่มขึ้นประมาณ 218 ล้านบาท ค่าเสียหายดังกล่าวนี้ได้แสดงเป็นรายการพิเศษแยก ต่างหากในงบ กำไรขาดทุนด้วย จำนวนสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องจำนวนเงินประมาณ 65 ล้านบาท ในงวดบัญชีสามเดือนนี้ บริษัทแปลงค่าหนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศซึ่งไม่ได้ทำ สัญญาซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าครอบคลุมไว้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2540 โดยใช้อัตราแลก เปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อ้างอิงของธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 30 กันยายน 2540 ผลดัง กล่าวทำให้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในงวดบัญชีสามเดือนนี้ (รวมขาดทุน จากการแปลงค่าหนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศและขาดทุนจากการจ่ายชำระหนี้สินในงวดบัญชีสาม เดือนนี้) เพิ่มขึ้นจาก วันที่ 30 มิถุนายน 2540 ประมาณ 524 ล้านบาท บริษัทได้แสดงผลเสียหายดัง กล่าวในงบกำไรขาดทุนสำหรับงวดบัญชีสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2540 เป็นรายการพิเศษด้วย จำนวนสุทธิจากกำไรในธุรกรรมด้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นจำนวนเงินประมาณ 131 ล้าน บาท และหลังจากหักภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องจำนวนเงินประมาณ 118 ล้านบาทแยกต่างหากในงบกำไร ขาดทุน อย่างไรก็ตาม ผลขาดทุนส่วนเพิ่มที่อาจเกิดขึ้นจะมีจำนวนเงินประมาณ 71 ล้านบาท จากอัตรา แลกเปลี่ยน ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2540 10. สัญญา 10.1 สัญญาเช่าระยะยาว บริษัทมีสัญญาเช่าที่ดินสอง (2) ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญาเช่าทั้งสอง (2) ฉบับมีอายุสามสิบ (30) ปี (จนถึง เดือนธันวาคม 2566 และเดือน ธันวาคม 2567) สัญญาดังกล่าวสามารถต่ออายุต่อไปได้อีกโดยการ แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าหนึ่ง (1) ปีก่อนครบอายุการเช่า ตามเงื่อนไขของสัญญาบริษัทจะต้อง จ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 439ล้านบาท บริษัทจะมอบกรรมสิทธิ์ในอาคารและสิ่ง ปลูกสร้างบน ที่ดินดังกล่าวให้กับผู้ให้เช่าเมื่อสัญญาหมดอายุลง - 6 - บริษัทมีสัญญาเช่าช่วงที่ดินหนึ่ง (1) ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน แห่งหนึ่ง เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า สัญญานี้มีอายุยี่สิบเอ็ด (21) ปี หก (6) เดือน (จนถึงเดือน เมษายน 2558) และสามารถต่ออายุสัญญาเช่าต่อไปได้อีกสิบ (10) ปี ตาม เงื่อนไขของสัญญาบริษัทจะต้องจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นจำนวนเงินประมาณ 62 ล้านบาท และค่าเช่าเป็นรายเดือนตามอัตราที่ระบุในสัญญาปีละประมาณ 2 ล้านบาท ถึง 10 ล้านบาท บริษัทจะ มอบกรรมสิทธิ์ในอาคารและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าวให้กับผู้ให้เช่าหรือผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินเมื่อสัญญา หมดอายุลง บริษัทมีสัญญาจองเพื่อเช่าพื้นที่ภายในอาคารศูนย์การค้าหนึ่ง (1) ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง สัญญานี้มีอายุ สามสิบ (30) ปี และสามารถต่ออายุต่อไปได้อีก ตาม เงื่อนไขของ สัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นเงินรวมประมาณ 109 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2540 บริษัทจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นจำนวน เงินรวมประมาณ 103 ล้านบาท 10.2 สัญญาต่างตอบแทน ตามเงื่อนไขของสัญญาระหว่างบริษัทกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง บริษัทได้รับสิทธิก่อสร้างอาคารบนที่ดินที่เช่าโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องกันนั้น และดำเนินการหาผลประโยชน์ จากอาคารดังกล่าวจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2551 สัญญานี้ต่ออายุได้อีก ครั้งละสิบ (10) ปี บริษัทจะ มอบกรรมสิทธิ์ในอาคารและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าว ให้กับผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินเมื่อ สัญญาหมดอายุลง บริษัทต้องชำระค่าตอบแทนเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 96,272,000 บาท โดยแบ่งชำระเป็นงวดต่าง ๆ กัน จนถึง พ.ศ . 2551 บริษัทมีนโยบายบันทึกค่าตอบแทนดังกล่าวเป็น ค่าใช้จ่ายตามอายุของสัญญา - 7 - 11. ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหน้า ณ วันที่ 30 กันยายน 2540 บริษัทมี 11.1 หนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหน้าจากการเป็นผู้ค้ำประกันวงเงินสินเชื่อจาก ธนาคารและสถาบันการเงินของบริษัทย่อยหลายแห่งตามสัด ส่วนการถือหุ้นเป็นเงินรวมประมาณ 1,756 ล้านบาท โดยมียอดที่เบิกใช้ จำนวนประมาณ 811 ล้านบาท และยอดคงเหลือที่ยังไม่ได้เบิกมาใช้อีกเป็น จำนวนเงินประมาณ 945 ล้านบาท 11.2 หนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหน้าจากการที่ธนาคารออกหนังสือค้ำประกัน บริษัทให้กับ องค์การรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งจำนวนเงินรวม ประมาณ 27.7 ล้านบาท 11.3 สัญญาซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าหนึ่ง (1) ฉบับกับสาขาของธนาคาร ต่างประเทศ แห่งหนึ่งเป็นจำนวนเงิน 13 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาเทียบเท่าเป็นเงินบาทประมาณ 47 6 ล้านบาท สัญญาดังกล่าวสิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคม 2540 12. การจัดประเภทใหม่ บัญชีบางบัญชีในปี 2539 ได้จัดประเภทใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการแสดงรายการใน งบการเงินปี 2540