15 พฤษภาคม 2541

งบการเงินรวม ไตรมาส1/1998

- 5 - 6. เงินลงทุนในหุ้นทุนในบริษัทย่อย - วิธีส่วนได้เสีย งบการเงินเฉพาะบริษัท พันบาท สัดส่วนเงินลงทุน เงินลงทุน 2541 ประเภทกิจการ (ร้อยละ) ทุนชำระแล้ว วิธีราคาทุน วิธีส่วนได้เสีย เงินปันผล บริษัท เซ็นทรัลเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด (2) 99.99 1,000 1,000 163,557 - บริษัท หลังสวน เรียลตี้ จำกัด (3) 99.99 150,000 150,000 132,209 - บริษัท เซ็นทรัลฟู้ดอเวนิว จำกัด (4) 99.99 1,000 1,000 11,832 - บริษัท โฟกัส โฮลดิ้ง จำกัด (1) 99.99 400,000 400,000 399,805 - บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา เชียงใหม่ จำกัด(1)และ (4) 99.99 475,000 474,999 449,530 - บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา โคราช จำกัด (1) 99.99 200,000 199,999 188,271 - บริษัท ฟู้ด โนเวลตี้ส์ จำกัด (5) 99.99 1,000 1,000 928 - บริษัท คอฟฟี่ พาร์ทเนอร์ส จำกัด (5) 99.93 1,000 1,000 964 - บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ขอนแก่น จำกัด (1) 61.74 148,630 91,779 87,499 - บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ชลบุรี จำกัด (1) 60.00 315,100 189,084 188,034 - บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ไนน์ สแควร์ จำกัด (1) 60.00 390,000 234,000 234,945 - บริษัท นำทรัพย์พัฒนา จำกัด (1) 50.00 100,000 324,926 381,127 - รวม 2,068,787 2,238,701 - 2540 บริษัท เซ็นทรัลเรียลตี้ เซอร์วิส จำกัด (2) 99.99 1,000 1,000 128,513 - บริษัท หลังสวน เรียลตี้ จำกัด (3) 99.99 150,000 150,000 136,047 - บริษัท เซ็นทรัลฟู้ดอเวนิว จำกัด (4) 99.99 1,000 1,000 10,873 - บริษัท โฟกัส โฮลดิ้ง จำกัด (1) 99.99 100,000 100,000 99,875 - บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา เชียงใหม่ จำกัด(1)และ (4) 99.99 475,000 474,999 465,854 - บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา โคราช จำกัด (1) 99.99 50,750 50,749 50,652 - บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ขอนแก่น จำกัด (1) 61.74 148,630 91,779 92,400 - บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ชลบุรี จำกัด (1) 60.00 315,100 189,084 187,887 - บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ไนน์ สแควร์ จำกัด (1) 60.00 390,000 234,000 235,177 - บริษัท นำทรัพย์พัฒนา จำกัด (1) 50.00 100,000 324,926 418,605 - รวม 1,617,537 1,825,883 - (1) ก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า (2) ให้บริการด้านสาธารณูปโภคภายในศูนย์การค้า (3) ก่อสร้างห้องชุดพักอาศัยและอาคารร้านค้าเพื่อขายสิทธิการเช่า (4) ขายอาหารและเครื่องดื่ม (5) ผลิต จำหน่ายและนำเข้าอาหาร ขนมอบและเครื่องดื่ม - 6 - 7. เงินลงทุนในหุ้นทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน - วิธีราคาทุน งบการเงินรวม สัดส่วนการถือหุ้น ทางตรงและ ทางอ้อม (ร้อยละ) จำนวนเงิน (พันบาท) 2541 2540 2541 2540 บริษัท บางนา เซ็นทรัล พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด 19.99 19.99 107,946 107,946 บริษัท จิวเวลรี่ โฮลดิ้ง จำกัด 17.20 17.20 2,869 2,869 บริษัท สยามรีเทลดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด 15.00 15.00 66,250 66,250 บริษัท สแควร์ลีส พลาซ่า จำกัด 12.00 12.00 15,000 15,000 บริษัท จิวเวลรี่ เรียลตี้ จำกัด 13.65 13.65 117,869 117,869 บริษัท สรรพสินค้ารัชดานนทรีย์ จำกัด 19.00 19.00 68,966 44,155 บริษัท อยุธยาเกษตรธานี จำกัด 11.85 10.00 50,397 45,597 บริษัท บางกอกคลับ จำกัด 0.14 - 1,000 - รวม 430,297 399,686 งบการเงินเฉพาะบริษัท สัดส่วนการถือหุ้น ทางตรงและ ทางอ้อม (ร้อยละ) จำนวนเงิน (พันบาท) 2541 2540 2541 2540 บริษัท บางนา เซ็นทรัล พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด 19.99 19.99 107,946 107,946 บริษัท จิวเวลรี่ โฮลดิ้ง จำกัด 17.20 17.20 2,869 2,869 บริษัท สยามรีเทลดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด 15.00 15.00 66,250 66,250 บริษัท สแควร์ลีส พลาซ่า จำกัด 12.00 12.00 15,000 15,000 บริษัท จิวเวลรี่ เรียลตี้ จำกัด 13.65 13.65 117,869 117,869 บริษัท อยุธยาเกษตรธานี จำกัด 11.85 10.00 50,397 45,597 บริษัท บางกอกคลับ จำกัด 0.14 - 1,000 - รวม 361,331 355,531 - 7 - 8. เงินลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียน ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2540 ได้มีมติให้เปลี่ยนวัตถุประสงค์ เงินลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนบางส่วนซึ่งมีราคาตลาด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2540 จำนวนประ มาณ 19.75 ล้านบาท จากถือเป็นเงินลงทุนระยะสั้นไปเป็นเงินลงทุนระยะยาวตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2 540 เป็นต้นไป ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนดังกล่าวจำนวนประมาณ 16.65 ล้านบาท ได้รวม ไว้ในส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุล 9. เงินลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงิน เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2540 กระทรวงการคลังได้ประกาศให้บริษัทเงินทุน และบริษัท หลักทรัพย์ในประเทศหลายแห่งระงับการดำเนินกิจการ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2541 บริษัทมี เงินฝากในตั๋วสัญญาใช้เงินกับบริษัทเงินทุนดังกล่าวแห่งหนึ่งจำนวนเงินประมาณ 46.3 ล้าน บาท ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการเปลี่ยนตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวเป็นบัตรเงินฝากของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทแสดงตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวไว้ภายใต้ สินทรัพย์อื่น ในงบดุลเนื่องจากคาดว่าจะ ได้รับคืนเงินในระยะเวลาเกินกว่า 1 ปี 10. เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน บริษัทมีวงเงินเบิกเกินบัญชีกับธนาคารในประเทศหลายแห่งโดยมีอัตราดอกเบี้ย เท่ากับอัตราดอกเบี้ยเงินเบิกเกินบัญชีขั้นต่ำ บริษัทมีเงินกู้ยืมกับธนาคารในต่างประเทศสองแห่งเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 267 ล้านบาท (6.83 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา) เงินกู้ยืมเหล่านี้มีอัตราดอกเบี้ยอิงกับอัตราเงินกู้ยืมระหว่าง ธนาคารในสิงคโปร์ (SIBOR) ภายใต้สัญญาเงินกู้ยืมดังกล่าวบริษัทได้ให้คำรับรองในเรื่องต่าง ๆ เช่น การรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิ การกำหนดจำนวนส่วนของผู้ถือหุ้น ต้องได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้กู้ถ้าประกาศจ่ายเงินปันผลเกินร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิแต่ละปีเป็นต้น - 8 - 11. เงินกู้ยืมระยะยาว บริษัทมีเงินกู้ยืมระยะยาวกับธนาคารในต่างประเทศแห่งหนึ่งเป็นจำนวนเงินรวม ประมาณ 156 ล้านบาท ( 4 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา) โดยมีอัตราดอกเบี้ยอิงกับอัตราเงินกู้ยืม ระหว่างธนาคารในลอนดอน (LIBOR) มีกำหนดชำระคืนทั้งจำนวนในเดือนธันวาคม 2541 ภายใต้ สัญญาเงินกู้ดังกล่าว บริษัทได้ให้คำรับรองในเรื่องต่าง ๆ เช่น การไม่เพิ่มภาระผูกพันในทรัพย์สินที่ เปิดดำเนินการแล้วของบริษัทและบริษัทย่อย การกำหนดอัตราการจ่ายเงินปันผลจะต้องไม่เกินกำไรสุทธิ ของงบการเงินรวม เป็นต้น บริษัททำสัญญาเงินกู้ร่วมกับสถาบันการเงินในต่างประเทศเป็นจำนวนเงินรวมประ มาณ 773 ล้านบาท (30 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา) โดยมีอัตราดอกเบี้ยอิงกับอัตราเงินกู้ยืมระหว่าง ธนาคารในสิงคโปร์ (SIBOR) มีกำหนดชำระคืนทั้งจำนวนในเดือนกันยายน 2542 ภายใต้สัญญาเงินกู้ร่วมดัง กล่าว บริษัทได้ให้คำรับรองในเรื่องต่าง ๆ เช่น การรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น การ รักษาอัตราส่วนการกู้ยืมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นโดยใช้ข้อมูลจากงบการเงินรวมและการไม่เพิ่มภาระผูกพันใน ทรัพย์สินที่เปิดดำเนินการแล้วของบริษัทและบริษัทย่อย เป็นต้น ณ วันที่ 31 มีนาคม 2541 บริษัทมีอัตรา ส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 2.13 ต่อ 1 และอัตราส่วนการกู้ยืมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 1.22 ต่อ 1 โดย คำนวณจากข้อมูลงบการเงินรวม เพื่อลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประ เทศ บริษัทได้ทำสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศกับธนาคารต่างประเทศแห่งหนึ่ง เพื่อกำหนดอัตรา แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจำนวน 30 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาเป็น 773 ล้านบาท สัญญาแลก เปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนี้มีค่าธรรมเนียมประมาณ 39 ล้านบาทต่อปี จนถึงเดือนกันยายน 2542 อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีภาระหนี้สินต่อผู้ให้กู้ถ้าธนาคารต่างประเทศดังกล่าวไม่สามารถชำระหนี้ให้ แก่ผู้ให้กู้ได้ บริษัทย่อยมีเงินกู้ยืมระยะยาวกับธนาคารในประเทศแห่งหนึ่ง ในวงเงิน 1,500 ล้านบาทโดยมีกำหนดชำระคืนในเวลาเจ็ด (7) งวด ทุกงวด 6 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2541 ค้ำประกันโดยการจำนองที่ดินของบริษัทพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่ในขณะนี้และ/หรือที่จะมีขึ้นใน อนาคตบนที่ดินดังกล่าว และกรรมการของบริษัทย่อยบางท่าน - 9 - 12. หุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตราต่างประเทศ ในเดือนเมษายน 2539 บริษัทได้ออกหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตราต่างประเทศซึ่ง จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งลัคเซมเบอร์กเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 50 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ( แบ่งเป็น 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา) มีอายุห้า (5) ปี (จนถึง เดือนเมษายน 2544) หุ้นกู้นี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.75 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกปีจนกว่าจะครบกำหนด ไถ่ถอนในวันที่ 11 เมษายน 2544 ผู้ถือหุ้นสามารถใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญของบริษัทในอัตรา ส่วน 1 หุ้นกู้ต่อ 245 หุ้นสามัญในราคาแปลงสภาพหุ้นละ 103 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนคงที่เมื่อแปลง สภาพ 1 เหรียญสหรัฐอเมริกาเท่ากับ 25.235 บาท (ราคาไถ่ถอนอาจมีการเปลี่ยนแปลงทั้งนี้ขึ้น อยู่กับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นตามที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขการออกหุ้นกู้) และสามารถใช้สิทธิแปลงสภาพได้ ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2539 ถึงวันที่ 27 มีนาคม 2544 นอกจากนี้บริษัทสามารถใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้น กู้บางส่วนหรือทั้งหมดในราคาบวกส่วนเพิ่มการไถ่ถอน (Redemption premium) ณ วันใดวันหนึ่งภาย หลังวันที่ 11 เมษายน 2542 ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ หุ้นกู้ที่คงเหลืออยู่ ณ วันที่ครบกำหนด ไถ่ถอน จะถูกไถ่ถอนในราคาหุ้นละ 1,320 เหรียญสหรัฐอเมริกา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2541 บริษัทบันทึก ตั้งสำรองค่าใช้จ่ายทางการเงินสำหรับส่วนเพิ่มจำนวน 320 เหรียญสหรัฐอเมริกาต่อหุ้น ที่จะต้องจ่าย เมื่อครบกำหนดไถ่ถอนไว้ในบัญชี โดยคำนวณตามวิธีเส้นตรงตลอดอายุของหุ้นกู้ เกี่ยวเนื่องกับการออกหุ้นกู้ดังกล่าวข้างต้น บริษัทได้ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียน เพื่อรองรับการใช้สิทธิการแปลงสภาพหุ้นกู้ของผู้ถือหุ้นกู้ด้วยจำนวน 21 ล้านหุ้น 13. สัญญา 13.1 สัญญาเช่าระยะยาว บริษัทมีสัญญาเช่าที่ดินสอง (2) ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญาเช่าทั้งสอง (2) ฉบับมีอายุสามสิบ (30) ปี (จนถึง เดือนธันวาคม 2566 และเดือนธันวาคม 2567) สัญญาดังกล่าวสามารถต่ออายุต่อไปได้อีกโดยการแจ้งเป็น ลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าหนึ่ง (1) ปีก่อนครบอายุการเช่า ตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทได้จ่าย ค่าเช่าล่วงหน้าเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 439 ล้านบาท และบันทึกไว้ภายใต้บัญชีสินทรัพย์เพื่อให้เช่าใน งบดุลรวม บริษัทย่อยมีสัญญาเช่าที่ดินสอง (2) ฉบับกับบริษัทในประเทศ เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคาร ให้เช่า - 10 - สัญญาเช่าสอง (2) ฉบับมีอายุสาม (3) ปีและสามสิบ (30) ปี (จนถึงเดือน กุมภาพันธ์ 2542 และเดือนกุมภาพันธ์ 2572) และมีสัญญาเช่าที่ดินสาม (3) ฉบับกับกลุ่มบุคคลและบุคคล ธรรมดาเพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารให้เช่า สัญญาเช่าทั้งสาม (3) ฉบับ มีอายุสามสิบ (30) ปี (จนถึงเดือนสิงหาคม 2568 เดือนพฤษภาคม 2570 และเดือนมิถุนายน 2573) ตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทย่อยจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าและเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 599.4 ล้านบาท และ 298.6 ล้านบาท ตามลำดับ และค่าเช่าเป็นรายเดือนประมาณปีละ 16.9 ล้านบาทถึง 122.4 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2541 บริษัทย่อยจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นเงินรวมประมาณ 330. 1 ล้านบาท และบันทึกไว้ภายใต้บัญชีสินทรัพย์เพื่อให้เช่าในงบดุลรวม และจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิ การเช่าเป็นเงินรวมประมาณ 298.6 ล้านบาท และบันทึกไว้ภายใต้บัญชีสินทรัพย์อื่นในงบดุลรวม บริษัท ย่อยจะได้รับชำระคืนเงินค้ำประกันสิทธิการเช่านับตั้งแต่ปีการเช่าที่ยี่สิบเอ็ด (21) ถึงปีการเช่าที่สามสิบ (30) สัญญาดังกล่าวสามารถต่ออายุต่อไปได้อีกโดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าหนึ่ง (1) ปี ก่อนครบอายุการเช่า บริษัทและบริษัทย่อยจะมอบกรรมสิทธิ์ในอาคารและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าว ให้กับผู้ให้เช่าเมื่อสัญญาหมดอายุลง บริษัทมีสัญญาเช่าช่วงที่ดินหนึ่ง (1) ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง เพื่อ ดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์การค้าเพื่อให้เช่า สัญญานี้มีอายุยี่สิบเอ็ด (21) ปี หก (6) เดือน ( จนถึงเดือนเมษายน 2558) และสามารถต่ออายุสัญญาเช่าต่อไปได้อีกสิบ (10) ปี ตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่ายเงินค้ำประกันสิทธิการเช่าเป็นจำนวนเงินประมาณ 62 ล้านบาท และบันทึกไว้ภายใต้ บัญชีสินทรัพย์อื่นในงบดุลรวม และค่าเช่าเป็นรายเดือนตามอัตราที่ระบุในสัญญาปีละประมาณ 2 ล้านบาท ถึง 10 ล้านบาท บริษัทจะมอบกรรมสิทธิ์ในอาคารและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าวให้กับผู้ให้เช่าหรือผู้มี กรรมสิทธิ์ในที่ดินเมื่อสัญญาหมดอายุลง บริษัทและบริษัทย่อยมีสัญญาจองเพื่อเช่าพื้นที่ภายในอาคารศูนย์การค้าหนึ่ง (1) ฉบับ กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง สัญญานี้มีอายุสามสิบ (30) ปี และสามารถต่ออายุต่อไปได้อีก ตาม เงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นเงินประมาณ 155 ล้านบาท 31 มีนาคม 2541 บริษัทและบริษัทย่อยจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นจำนวนเงินประมาณ 147 ล้านบาท และบันทึกไว้ภายใต้บัญชี สินทรัพย์เพื่อให้เช่าในงบดุลรวม - 11 - บริษัทย่อยมีสัญญาเช่าพื้นที่กับบริษัทในประเทศแห่งหนึ่งเพื่อประกอบธุรกิจ ศูนย์การค้า สัญญานี้มีอายุสามสิบ (30) ปี (จนถึงเดือนมิถุนายน 2573) ตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 850 ล้านบาท และค่าเช่าเป็นรายเดือน ประมาณปีละ 6 ล้านบาท ถึง 21 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2541 บริษัทย่อยจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า เป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 377 ล้านบาท และบันทึกไว้ภายใต้บัญชีสินทรัพย์เพื่อให้เช่าในงบดุลรวม บริษัทย่อยจะมอบกรรมสิทธิ์ในส่วนปรับปรุงอาคารดังกล่าวให้กับผู้ให้เช่าเมื่อสัญญาหมดอายุลง 13.2 สัญญาต่างตอบแทน ตามเงื่อนไขของสัญญาระหว่างบริษัทกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง บริษัทได้รับสิทธิก่อสร้างอาคารบนที่ดินที่เช่าโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องกันนั้น และดำเนินการหาผลประโยชน์ จากอาคารดังกล่าวจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2551 สัญญานี้ต่ออายุได้อีก ครั้งละสิบ (10) ปี บริษัท จะมอบกรรมสิทธิ์ในอาคารและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าวให้กับผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินเมื่อสัญญา หมดอายุลง บริษัทต้องชำระค่าตอบแทนเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 96,272,000 บาท โดยแบ่งชำระเป็นงวดต่าง ๆ กัน จนถึง พ.ศ. 2551 บริษัทมีนโยบายบันทึกค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นค่า ใช้จ่ายตามอายุของสัญญา 13.3 สัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิ บริษัทและบริษัทย่อยมีสัญญาเงินค่าประกันการจองสิทธิหลายฉบับเพื่อรับ จองห้องภายในอาคารศูนย์การค้าของโครงการปิ่นเกล้า รามอินทรา พัทยา และพระรามสาม ณ วันที่ 3 1 มีนาคม 2541 และ 2540 บริษัทได้รับเงินประกันการจองสิทธิดังกล่าวจำนวนเงินรวมประมาณ 126. 1 ล้านบาท และ 198.9 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งแสดงไว้ในงบดุลรวมภายใต้บัญชี เงินค้ำประกันเพื่อ สิทธิการเช่า - 12 - 14. ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2541 14.1 บริษัทย่อยมีสัญญาเงินกู้ยืมระยะยาวในวงเงิน 1,000 ล้านบาท และสัญญา เงินกู้โดย ตั๋วสัญญาใช้เงินในวงเงิน 300 ล้านบาท กับธนาคารในประเทศแห่งหนึ่ง เงินกู้ เหล่านี้ค้ำประกันโดยบริษัทและบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง และการมอบสิทธิการเช่าและการจดจำนอง สิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่ในขณะนี้ และ/หรือ ที่จะมีขึ้นในอนาคตของบริษัทย่อย อย่างไรก็ดี ณ วันที่ 31 มีนาคม 2541 บริษัทย่อยยังมิได้เบิกเงินกู้ยืมดังกล่าว 14.2 บริษัทและบริษัทย่อยมีภาระผูกพันที่จะต้องจ่ายค่าออกแบบควบคุมและบริหาร งานสำหรับโครงการต่าง ๆ เป็นเงินรวมประมาณ 188.47 ล้านบาท 14.3 บริษัทและบริษัทย่อยมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้าจากการที่ธนาคารออก หนังสือค้ำประกันบริษัทให้กับองค์การรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งจำนวนเงินรวมประมาณ 56 ล้านบาท 15. การแสดงรายการในงบการเงินและการจัดประเภทบัญชีใหม่ งบการเงินปี 2541 ได้แสดงไว้ตามรูปแบบที่กำหนดตามกฎกระทรวงฉบับที่ 7 ( พ.ศ. 2539) ออกตามความในพระราชบัญญัติ บริษัทมหาชน จำกัด พ.ศ. 2535 ดังนั้นงบการเงินปี 25 40 ที่แสดงไว้เปรียบเทียบจึงมีการจัดประเภทใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการแสดงงบการเงินปี 2541