20 พฤษภาคม 2545
คำอธิบายงบการเงินไตรมาสที่ 1
ผลการดำเนินงาน
ภาพรวมการดำเนินงาน
ผลการดำเนินงานตามงบการเงินรวมของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับไตรมาสแรกของปี2545 บริษัทมีกำไรสุทธิ จำนวน
258.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2544 จำนวน 102.4 ล้านบาท หรือ 66% โดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้น
ของรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการที่สูงขึ้นถึง 27.3% และการลดลงของผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการจ่ายคืนหุ้นกู้
แปลงสภาพสกุลเงินตราต่างประเทศทั้งจำนวนในเดือนเมษายน 2544
รายได้
รายได้รวมของบริษัทและบริษัทย่อยประกอบด้วยรายได้จากค่าเช่าและบริการ รายได้จากการขายอาหารและ
เครื่องดื่ม และรายได้อื่น สำหรับไตรมาสแรกของปี 2545 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 846.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก
ของปี 2544 จำนวน 181.5 ล้านบาท ปัจจัยหลักคือการรวมเอารายได้ต่างๆของศูนย์การค้าเซ็นทรัลซิตี้ บางนา ซึ่งบริษัทได้เข้าถือ
หุ้นเพิ่มจาก20% เป็น99% เมื่อเดือนกันยายน 2544 นอกจากนั้นก็มาจากศูนย์การค้าอื่นของบริษัทตามรายละเอียดดังนี้
1. รายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ - บริษัทมีรายได้ค่าเช่าและบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี
2544 จากการเพิ่มขึ้นของอัตราการเช่าพื้นที่และค่าเช่าเฉลี่ยทั้งในส่วนศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานโดยเฉพาะโครง
การศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว และ เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า ที่ปัจจุบันอัตราการเช่าพื้นที่ 2 โครงการใน
ส่วนศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานสูงถึง 99% ในขณะที่อัตราการเช่าของโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลแอร์พอร์ต
พลาซา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลซิตี้บางนา และศูนย์การค้าเซ็นทรัลรัชดาพระราม3 ก็มี
อัตราการเช่าปัจจุบันอยู่ในระดับสูงถึง 98%, 96%, 94% และ 91% ตามลำดับ นอกจากนี้บริษัทยังได้พัฒนาและปรับ
ปรุงศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่องโดยเมื่อไม่นานมานี้ ได้เปิด JunctionX ที่ปิ่นเกล้า เปิดโรงเบียร์ที่พัทยา และเปิด
โรงภาพยนตร์ SFX ที่ลาดพร้าว และบริษัทยังเน้นการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบของร้านค้าต่างๆในศูนย์การค้าให้มีความทันสมัย
อยู่เสมอโดยการจัดหาร้านค้าปลีกที่มีศักยภาพในการแข่งขัน ในส่วนของอาคารสำนักงานบริษัทได้ขยายฐานลูกค้าไปยัง
กลุ่มสถาบันสอนดนตรี สถาบันการศึกษา ศูนย์ความงามและสุขภาพ
2. รายได้จากอาหารและเครื่องดื่ม -บริษัทมีรายได้จากอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ10 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน
ของปี 2544 เนื่องจากการรวมรายได้ศูนย์อาหารในโครงการเซ็นทรัลซิตี้บางนา
3. รายได้อื่น - รายได้อื่นประกอบด้วย กำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ รายได้จากการเก็บภาษีโรงเรือน รายได้จากค่า
โฆษณา รายได้จากค่าประกันภัย และ รายได้อื่นๆ โดยรายได้อื่นในไตรมาสแรกของปี 2545 มีจำนวน 30.8 ล้านบาท
ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ32 เนื่องมาจากในไตรมาสแรกของปี 2544 บริษัทมีกำไรจากการจำหน่าย
เงินลงทุนในบริษัทย่อยจำนวน 15.4 ล้านบาท และมีกำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตราต่างประเทศจำนวน 3 ล้านบาท
ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหาร
ต้นทุน
ต้นทุนของบริษัทและบริษัทย่อยประกอบด้วย ต้นทุนการเช่าและบริการ และต้นทุนอาหารและเครื่องดื่ม สำหรับไตร
มาสแรกของปี 2545 บริษัทและบริษัทย่อยมีต้นทุนในไตรมาสแรกของปี 2545 รวมจำนวน 398.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ
28 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2544 ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนในโครงการเซ็นทรัลซิตี้ บางนา เช่นกัน
สำหรับสาเหตุอื่นมี
(1) ต้นทุนการเช่าและบริการ -ส่วนใหญ่ประกอบด้วยค่าเสื่อมราคา และต้นทุนค่าน้ำค่าไฟ สำหรับไตรมาสแรกของ
ปี 2545 ต้นทุนการเช่าและบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ30 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นผลจากการ
เพิ่มขึ้นของอัตราค่าน้ำค่าไฟเฉลี่ยต่อหน่วยและปริมาณการใช้จากพื้นที่ให้เช่าที่เพิ่มขึ้นในหลายโครงการ
(2) ต้นทุนอาหารและเครื่องดื่ม-ต้นทุนอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นตามรายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่ม
สำหรับไตรมาสแรกของปี 2545 โดยภาพรวมมียอดต้นทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ11 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2544
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหาร
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหาร ส่วนใหญ่ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ค่าโฆษณาและส่งเสริมการขาย
สำหรับไตรมาสแรกของปี 2545 บริษัทและบริษัทย่อยมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหาร จำนวน 79.2 ล้านบาท เพิ่ม
ขึ้นร้อยละ15 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2544 เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านบุคคลากรที่เพื่มขึ้นสำหรับโครงการบางนา
และโครงการใหม่เช่น โครงการเชียงใหม่เฟส2บี และ โครงการพระราม2
กำไร
บริษัทและบริษัทย่อยมีอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสแรกของปี2545ไม่แตกต่างจากไตรมาสแรกของปี 2544 โดย
อัตรากำไรขั้นต้นต่อรายได้ยังคงอยู่ในช่วงร้อยละ 53 ในขณะที่กำไรสุทธิในไตรมาสแรกของปี2545เพิ่มขึ้นร้อยละ 66
เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้วจากปัจจัยหลักคือการเพิ่มขึ้นของรายได้และการลดลงของขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
ตามที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น
อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น
อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ในระดับที่สูงขึ้นมาก โดย ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2545 มีอัตราร้อยละ 25
ในขณะที่ ณ สิ้นปี2544 มีอัตราร้อยละ 15 และผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี
2544 จำนวน 2.75 บาทต่อหุ้น ในวันที่ 26 เมษายน 2545
ฐานะการเงิน
สินทรัพย์
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2545 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 15,092 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากยอดสินทรัพย์รวม
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 จำนวน 348.4 ล้านบาท โดยสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นสาระสำคัญคือ เงินลงทุนชั่วคราวซึ่ง
ส่วนใหญ่เป็นเงินสดจากการดำเนินงานและเงินกู้ระยะสั้นที่เตรียมไว้เพื่อนำไปลงทุนในการก่อสร้างโครงการพระราม2และ
เชียงใหม่
ด้านคุณภาพของลูกหนี้ บริษัทสามารถเก็บหนี้ได้เร็วขึ้น โดยจะเห็นได้จากระยะเวลาในการเก็บหนี้ค่อยๆทยอยลดลง
มาโดยตลอด และในไตรมาสแรกของปีนี้มีระยะเวลาในการเก็บหนี้เฉลี่ย 12 วัน ทำให้เงินสดจากการดำเนินงานเพิ่มสูงขึ้น
อย่างน่าพอใจ
หนี้สิน
ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2545 บริษัทและบริษัทย่อยมีหนี้สินรวม 10,883.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2544
จำนวน 369 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ4 จากการออกตั๋วสัญญาใช้เงินระยะสั้นจำนวน 384 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับ
โครงการพระราม2
ส่วนของผู้ถือหุ้น
ด้านส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น 412 ล้านบาทเป็นผลจากเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน
สภาพคล่อง
สภาพคล่องของบริษัทจัดอยู่ในเกณฑ์ดี โดย ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2545 บริษัทมีเงินสด เงินฝากธนาคารและเงิน
ลงทุนระยะสั้นทีเทียบเท่ากับเงินสด เป็นจำนวนรวม 2,491 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2544 ร้อยละ14 และ
บริษัทมีอัตราส่วนสภาพคล่องอยู่ในระดับที่เหมาะสมโดย ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2545 อยู่ในระดับ 0.9
รายจ่ายลงทุน
บริษัทและบริษัทย่อยมีรายจ่ายลงทุนในไตรมาสแรกของปี2545 จำนวน171.3 ล้านบาท โดยรายการสำคัญเป็นราย
จ่ายเพื่อสำหรับโครงการระหว่างการพัฒนาอันได้แก่ อาคารหลักและงานระบบของโครงการพระราม2 เชียงใหม่ และ บางนา
แหล่งที่มาของทุน: บริษัทมีโครงสร้างเงินทุนตามสัดส่วนที่เหมาะสม
คือ มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนในระดับ1.2 : 1
- ส่วนของผู้ถือหุ้น - ส่วนของผู้ถือหุ้นสำหรับไตรมาสแรกของปี 2545 เพิ่มขึ้นจำนวน 235 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 5.9 เป็นผลมาจากกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นแม้ว่าจะได้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลจำนวน 275 ล้านบาทใน
เดือนมีนาคม 2545 แล้วก็ตาม
- หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย - ณ 31 มีนาคม 2545 มีจำนวนรวม 5,248 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
หนี้สิน ครบกำหนด จำนวน อัตราดอกเบี้ย หลักประกัน
1. หุ้นกู้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิ 30 มี.ค 2546 ครั้งที่ 2 - 120 ล้านบาท 7.75% ไม่มี
ครั้งที่ 3 - 780 ล้านบาท MLR-0.5%
2. หุ้นกู้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิ 28 มิ.ย. 2549 1,000 ล้านบาท MLR-0.375% ไม่มี
3. กองทุนรวมธุรกิจไทย 1(60.53%) 31 ส.ค. 2554 514 ล้านบาท ปีที่ 1-5 MLR-1% อาคารงานระบบและสิทธิการเช่า
ปีที่ 6-7 MLR-0.75% โครงการพระราม3
ปีที่ 8-10 MLR-0.5%
4. กองทุนรวมธุรกิจไทย 2 21 ธ.ค. 2554 1,756 ล้านบาท ก) ปีที่ 1-5 MLR-1% อาคารศูนย์การค้าสิทธิการเช่า
ปีที่ 6-7 MLR-0.75% ที่ดินและงานระบบโครงการปิ่นเกล้า
ปีที่ 8-10 MLR-0.5%
ข) ปีที่ 1-2 6.875%
ปีที่ 3-10 7%
5. ตั๋วแลกเงินและเงินเบิกเกินบัญชี 579 ล้านบาท 4.25-6.05% ไม่มี
6. เงินกู้โครงการเชียงใหม่ 5 ล้านบาท MLR
7. เงินกู้โครงการบางนา 494 ล้านบาท อยู่ระหว่างการปรับ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพื้นทีอาคารสำนักงาน
โครงสร้างหนี้ และสิทธิการเช่าชั้น 6 โครงการบางนา
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) และบริษัทย่อย
ตารางสรุปอัตราส่วนทางการเงิน
ณ 31 ธันวาคม 31 ธ.ค. 2544 31 มี.ค. 2544 31 มี.ค. 2545
LIQUIDITY RATIO
อัตราส่วนสภาพคล่อง 1.32 0.95 0.88
ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย(วัน) 13 14 12
PROFITABILITY RATIO
อัตรากำไรขั้นต้น 52.7% 53.2% 53.0%
อัตรากำไรสุทธิ 20.2% 21.4% 29.0%
อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น 14.9% 15.6% 24.5%
EFFICIENCY RATIO
อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ 4.3% 5.5% 6.9%
FINANCIAL POLICY RATIO
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 2.5 1.0 1.2
อัตราส่วนความสามารถชำระดอกเบี้ย** 6.9 3.8 5.0