16 พฤษภาคม 2546
คำอธิบายงบการเงินไตรมาสที่ 1
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
บทวิเคราะห์ผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงิน ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2546
ผลการดำเนินงาน
ภาพรวมผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2546
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มีผลกำไรสุทธิประจำไตรมาสแรกของปี 2546
จำนวน 303.5 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 0.76 บาทต่อหุ้น) เพิ่มขึ้น 45.4 ล้านบาท หรือ
17.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดโครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2
และการซื้อโครงการเวิล์ดเทรด เซ็นเตอร์ กรุงเทพ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีรายจ่าย
ค่าชดเชยกรณีการต่อเติมอาคารโครงการเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กับการรถไฟแห่งประเทศไทย
จำนวน 45.7 ล้านบาท ซึ่งบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในไตรมาสนี้
บริษัทได้เปิดดำเนินการโครงการเซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซา เชียงใหม่ เฟส 2 บี ในวันที่
9 เมษายน 2546 ด้วยอัตราการเช่าพื้นที่มากกว่า 85% และประสบความสำเร็จในการจัดตั้งกองทุน
อสังหาริมทรัพย์โครงการเซ็นทรัลซิตี้บางนา ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนทางการเงินและภาษีลดลง
ในอนาคต
นอกจากนี้บริษัทและผู้ให้เช่าที่ดินได้ยุติกรณีสัญญาเช่าที่ดินโครงการเซ็นทรัลพลาซา
ลาดพร้าว กับการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยได้ตกลงจ่ายค่าชดเชยกรณีการต่อเติมอาคารโครงการ
เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าวให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 95.7 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ตั้ง
สำรองจ่ายค่าชดเชยดังกล่าวในปี 2545 จำนวน 50 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจำนวน 45.7 ล้านบาท
บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในไตรมาสนี้ นอกจากนี้บริษัทจะจ่ายค่าชดเชยเพิ่มเติมให้กับการรถไฟ
แห่งประเทศไทยสำหรับปี 2546 จำนวน 24.94 ล้านบาท และปีละ 38.86 ล้านบาทต่อปี ตั้งแต่ปี 2547
เป็นต้นไปจนถึงปี 2552 ซึ่งจะบันทึกเป็นต้นทุนการเช่าและบริการ
รายได้
รายได้รวมของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับไตรมาสแรกของปี 2546 มีจำนวน 1,256.6
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 409.9 ล้านบาท หรือ 48.4% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน อันเป็นผลมาจาก
ยอดขายของ 2 โครงการใหม่ คือ โครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 และ โครงการเวิล์ดเทรด
เซ็นเตอร์ กรุงเทพ การเพิ่มขึ้นของพื้นที่เช่าบริเวณชั้น 6 และ 7 ในโครงการเซ็นทรัลซิตี้ บางนา
และการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าเช่าสำหรับสัญญาที่ต่ออายุและค่าเช่าที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อยอดขาย
ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหาร
ต้นทุน
ต้นทุนของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับไตรมาสแรกของปี 2546 มีต้นทุนรวมจำนวน 649.5
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 251.2 ล้านบาท หรือ 63.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากต้นทุนจาก
โครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 และโครงการเวิล์ดเทรด เซ็นเตอร์ กรุงเทพ และอัตราการใช้
สาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากอัตราการเช่าพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเปิด Junction X และ
Major Cineplex ที่โครงการเซ็นทรัลซิตี้ บางนา เมื่อปลายปีที่แล้ว
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหาร
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหารของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับไตรมาสแรก
ของปีนี้มีจำนวน 219.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139.7 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลัก
มาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหารของโครงการเวิล์ดเทรด เซ็นเตอร์ กรุงเทพ และ
โครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 และค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์โครงการ
เซ็นทรัลซิตี้บางนา นอกจากนี้บริษัทบันทึกค่าชดเชยกรณีการต่อเติมอาคารโครงการเซ็นทรัลพลาซา
ลาดพร้าว จำนวน 45.7 ล้านบาท ในไตรมาสนี้
ฐานะการเงิน
สินทรัพย์
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2546 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 21,827.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545 จำนวน 454.7 ล้านบาท หรือ 2.1% ซึ่งรายการสำคัญคือค่าก่อสร้างโครงการ
เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 และ เซ็นทรัลแอร์พอร์ทพลาซา เชียงใหม่ เฟส 2 บี
หนี้สิน
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2546 บริษัทและบริษัทย่อยมีหนี้สินรวม 15,493.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
จาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545 จำนวน 159.1 ล้านบาท หรือ 1% เนื่องจากการจัดตั้งกองทุน
อสังหาริมทรัพย์โครงการบางนา และบริษัทได้ไถ่ถอนหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันจำนวน 900 ล้านบาท
ซึ่งครบกำหนดชำระในวันที่ 31 มีนาคม 2546
ส่วนของผู้ถือหุ้น
ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 295.4 ล้านบาท หรือ 4.9% เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของกำไร
จากการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อย
บริษัทได้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นของบริษัท จากเดิมมูลค่าหุ้นละ 10 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ
5 บาทเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2546
การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน
ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2546 บริษัทมีสภาพคล่องที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาสสุดท้าย
ของปี 2545 บริษัทมีเงินสด เงินฝากธนาคารและเงินลงทุนชั่วคราว ที่เทียบเท่ากับเงินสดเป็น
จำนวนรวม 1,476.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2545 จำนวน 203.7 ล้านบาทหรือ 16%
ส่วนอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นยังคงรักษาระดับอยู่ที่ 1 เท่า ไม่เปลี่ยน
แปลงจากไตรมาสที่แล้ว และไตรมาสเดียวกันในปีก่อน
บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น ในไตรมาสนี้ 23% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่สี่ของปี
2545 ซึ่งเท่ากับ 15.7% และมีอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ ในไตรมาสนี้ 6.6% สูงขึ้นจากไตรมาส
สุดท้ายของปี 2545 ซึ่งเท่ากับ 5.2% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นและ
ประสิทธิผลในการใช้สินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ
ตารางสรุปอัตราส่วนทางการเงิน
31 มี.ค. 2546 31 ธ.ค.2545 31 มี.ค. 2545
ความสามารถในการดำรงสภาพคล่อง
สินทรัพย์หมุนเวียน/หนี้สินหมุนเวียน (เท่า) 0.35 0.24 0.89
ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย (วัน) 12 11 12
ความสามารถในการทำกำไร
อัตรากำไรขั้นต้น (%) 48.3 52.3 53.0
อัตรากำไรสุทธิ (%) 23.1 24.6 29.0
อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (%) 23.0 15.7 24.5
ความมีประสิทธิผลของการใช้สินทรัพย์
อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (%) 6.6 5.2 6.9
นโยบายทางการเงิน
อัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย (เท่า) 5.4 5.2 5.0
อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิ/ส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า) 1.0 1.0 1.0