17 สิงหาคม 2548
คำอธิบายผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/2548
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ
ฐานะการเงินและผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2548
ภาพรวมผลการดำเนินงาน
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2 ปี 2548
จำนวน 374.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 65.2 ล้านบาท หรือ
21.1 % ทั้งนี้เป็นผลจากรายได้ค่าเช่าของอาคารสำนักงานเซ็นทรัล เวิลด์ รายได้จาก
การให้เช่าพื้นที่ส่วนกลางที่เพิ่มขึ้นและการเพิ่มอัตราค่าเช่าตามสัญญาของโครงการเดิม
ในไตรมาสนี้ บริษัทได้จัดงานเปิดตัว "ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์..แลนด์มาร์ค
ออฟ เดอะเวิลด์" อย่างยิ่งใหญ่ โดยการเชิญสาวงามผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สทั้ง 81
ประเทศ มาร่วมเดินแฟชั่นโชว์ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงานในครั้งนี้ เพื่อให้สมกับการเป็น
โครงการระดับโลก ซึ่งส่งผลให้โครงการได้รับการตอบรับที่ดีในปัจจุบัน และบริษัทยังมี
การลงทุนในโครงการต่าง ๆ อาทิ การปรับโฉมศูนย์การค้าเดิมให้มีความทันสมัย และ
เพิ่มพื้นที่ขายให้มากขึ้น อันจะนำมาซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นของบริษัท รวมทั้งบริษัทยังมองหา
โอกาสลงทุนในโครงการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ในไตรมาสที่ 2 บริษัทยังคง
สามารถรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.9 เท่า ซึ่ง
ไม่เกิน 1 เท่าตามนโยบายทางการเงินของบริษัท
ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2548 บริษัทได้มีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นจากผล
ประกอบการของปี 2547ในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น จำนวนรวมทั้งสิ้น 544.7 ล้านบาท
หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ
รายได้
บริษัทมีรายได้จากค่าเช่าค่าบริการ และอาหารเครื่องดื่ม สำหรับไตรมาสที่ 2
ของปี 2548 จำนวน 1,659.2 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 205.4
ล้านบาท หรือ 14.1% เป็นผลจากรายได้ค่าเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานเซ็นทรัล เวิลด์
และการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าเช่าตามสัญญา รวมทั้งรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ส่วนกลาง
ที่เพิ่มขึ้นจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง
บริษัทมีรายได้อื่นๆ สำหรับไตรมาสที่ 2 ของปี 2548 จำนวน 63.8 ล้านบาท
ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 16.8 ล้านบาท หรือ 20.8% เนื่องจากในปีก่อน
บริษัทมีกำไรจากการซื้อคืนพื้นที่ตามสัญญาเช่าระยะยาว
ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการบริหาร
ในไตรมาสที่ 2 บริษัทมีต้นทุนการเช่าและบริการ ต้นทุนอาหารและเครื่องดื่ม
จำนวน 894.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119.4 ล้านบาท หรือ 15.4% เมื่อเปรียบเทียบกับ
ไตรมาสเดียวกันของปี 2547 โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากต้นทุนการดำเนินงาน ค่าเสื่อม
ราคาของโครงการอาคารสำนักงานเซ็นทรัล เวิลด์ สวนเซ็นทรัล พาร์ค พระราม 2
และค่าเช่าที่ดินของโครงการเซ็นทรัล เวิลด์
บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหารในไตรมาสที่ 2 จำนวน 241.4
ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 54.4 ล้านบาท หรือ 29.1% โดยค่าโฆษณา
และค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายที่เพิ่มสูงขึ้นมาก จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการ
ขายและประชาสัมพันธ์ในโครงการต่าง ๆอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดกิจกรรมฉลองครบ
รอบ 10 ปีของโครงการเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า และการจัดงานเปิดตัวโครงการ
เซ็นทรัล เวิลด์
ภาพรวมฐานะทางการเงิน ณ 30 มิถุนายน 2548
* สินทรัพย์
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 28,006.6 ล้าน
บาท เพิ่มขึ้นจากยอดสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2548 จำนวน 836.8 ล้านบาท
หรือ 3.1% โดยรายการสำคัญ คือ ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์-สุทธิ ที่เพิ่มขึ้นจากการ
ก่อสร้างและปรับปรุงศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์,เซ็นทรัล ทาวน์ เซ็นเตอร์รัตนาธิเบศร์
รวมทั้งการซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการใหม่
* หนี้สิน
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548 บริษัทมีหนี้สินรวม 18,743.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก
ยอดหนี้สินรวม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2548 จำนวน 668.5 ล้านบาท หรือ 3.7%
เนื่องจากบริษัทได้ออกหุ้นกู้ไม่มีหลักประกัน อายุ 2 ปี ในเดือนเมษายน 2548 จำนวน
1,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้างและปรับปรุงศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ และ
เซ็นทรัล ทาวน์ เซ็นเตอร์ รัตนาธิเบศร์ รวมถึงการพัฒนาโครงการใหม่ของบริษัทและ
หนี้สินที่เพิ่มขึ้นจากรายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้าจากการทำสัญญาให้เช่าช่วงที่ดินบางส่วนใน
โครงการ เซ็นทรัล เวิลด์ รวมถึงเงินมัดจำรับจากลูกค้ารายใหม่ที่เข้ามาเช่าพื้นที่ใน
อาคารสำนักงานเซ็นทรัล เวิลด์, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ และเซ็นทรัล ทาวน์
เซ็นเตอร์ รัตนาธิเบศร์
* ส่วนของผู้ถือหุ้น
บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548 เท่ากับ 9,262.8 ล้านบาท
สูงขึ้นจาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2548 จำนวน 168.3 ล้านบาท หรือ 1.9% เนื่องจาก
กำไรสุทธิสำหรับงวดจำนวน 374.2 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยที่เพิ่มขึ้นจาก
การลงทุนเพิ่มในบริษัทย่อยจำนวน 359.9 ล้านบาท ในขณะที่มีการจ่ายเงินปันผลซึ่งทำให้
ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง 544.7 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 2 ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้ ใช้สิทธิ
ในการแปลงหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 178,571,000 หุ้นเป็นหุ้นสามัญตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกัน
ในอัตราส่วน 1 หุ้นบุริมสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญ ทำให้บริษัทมีหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน
2,178,816,000 หุ้น จากเดิม 2,000,245,000 หุ้น ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม
2548 โดยรายการดังกล่าวไม่มีผลต่อจำนวนเงินทุนที่ออกและชำระแล้วแต่อย่างใด
การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน
* ความสามารถในการทำกำไร
สำหรับไตรมาสที่ 2 ปี 2548 อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 46.1% ซึ่งลดลงเล็กน้อย
จากไตรมาสเดียวกันของปี 2547ทั้ง ๆ ที่ไตรมาส นี้ได้รวมผลการดำเนินงานของอาคาร
สำนักงานเซ็นทรัล เวิลด์ ซึ่งในช่วงแรกของปียังมีรายได้ค่าเช่าไม่ครอบคลุมต้นทุนที่เกิด
ขึ้นโดยเฉพาะค่าเสื่อมราคา บริษัทคาดว่าอัตราส่วนนี้จะปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปี จาก
อัตราการให้เช่าพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น
ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิ และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นอยู่ที่ระดับ 21.6% และ
17.3% ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับ 20.0% และ 15.9%
ตามลำดับ เนื่องจากบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานที่สูงขึ้นจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น
ตามที่กล่าวข้างต้น
* นโยบายทางการเงิน
บริษัทมีอัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย 2.4 เท่าลดลงจากไตรมาส
ที่ 2 ของปี 2547 ซึ่งอยู่ที่ 4.0 เท่า โดยไตรมาสนี้มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน
ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจ่ายชำระหนี้สินหมุนเวียนอื่นจำนวนหนึ่ง
สำหรับอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 0.8
เท่า ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2547 มาอยู่ที่ 0.9 เท่า เนื่องจากบริษัทได้มีการกู้ยืมเงิน
เพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการออกหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันอายุ
2 ปี จำนวน 1,000 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548 เงินกู้ยืมที่มีภาระดอกเบี้ยประกอบด้วยเงินกู้อัตรา
ดอกเบี้ยคงที่ 89 % และเงินกู้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว 11 %
ตารางสรุปอัตราส่วนทางการเงิน ไตรมาสที่ 2 ปี 2548 ไตรมาสที่ 2 ปี 2547
LIQUIDITY RATIO
อัตราส่วนสภาพคล่อง (เท่า) 0.7 1.2
ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย (วัน) 7 7
PROFITABILITY RATIO
อัตรากำไรขั้นต้น (%) 46.1% 46.7%
อัตรากำไรสุทธิ (%) 21.6% 20.0%
อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (%) 17.3% 15.9%
EFFICIENCY RATIO
อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (%) 5.3% 4.7%
FINANCIAL POLICY RATIO
อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อ
ส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า) 0.9 0.8
อัตราส่วนความสามารถชำระดอกเบี้ย(เท่า) 2.4 4.0