17 May 2010
คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการไตรมาสที่ 1 ปี 2553
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ
ฐานะการเงินและผลการดำเนินงานรวมของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และ
บริษัทย่อย
ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2553
ภาพรวมผลการดำเนินงาน
ในการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานรวมของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ")
ระหว่างไตรมาสที่ 1 ปี 2553 และไตรมาสที่ 1 ปี 2552 บริษัทฯ ขอให้ข้อสังเกตในการพิจารณาว่า
สินทรัพย์ส่วนใหญ่ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้าและอาคารสำนักงานทั้ง 2 อาคารใน
โครงการเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า ได้ถูกโอนไปให้แก่กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN
รีเทล โกรท ("CPNRF") ตามสัญญาเช่าทางการเงินที่ได้ลงนามร่วมกันตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี
2552 ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการเปลี่ยนแปลงในผลการดำเนินการของไตรมาสนี้เมื่อเปรียบเทียบกับ
ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
อนึ่ง ผลการดำเนินรวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อยประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2552 ประกอบด้วยรายการ
ที่มิได้เกิดขึ้นเป็นประจำจำนวนรวมทั้งสิ้น 3,765.9 ล้านบาท (2,479.9 ล้านบาท หลังหักภาษี) โดย
มีรายละเอียดดังนี้
1) กำไรจากการทำสัญญาเช่าทางการเงินสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของโครงการเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า
กับกองทุน CPNRF จำนวน 3,206.9 ล้านบาท
2) รายได้อื่นจำนวน 659.0 ล้านบาท
3) ค่าใช้จ่ายในรูปของเงินสนับสนุนโครงการพัฒนาสวนสาธารณะบริเวณติดกับโครงการเซ็นทรัล
เวิลด์จำนวน 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2553 บริษัทฯ ได้มีการกลับรายการค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ เป็นผลให้
เกิดรายการที่มิได้เกิดขึ้นเป็นประจำรวมจำนวน 340.0 ล้านบาท (280.9 ล้านบาท หลังหักภาษี
รายละเอียดดังนี้
1) รายได้อื่นจากการกลับรายการหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 162.7 ล้านบาท
2) ดอกเบี้ยรับจำนวน 177.3 ล้านบาท
(โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม
2553 ข้อ 3)
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2553 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวมจำนวน 950.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
57.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 70.4% จากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากใน
ไตรมาสที่ผ่านมามีกำไรจากการทำสัญญาเช่าทางการเงินดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น เช่นเดียวกัน
กับรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 19.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 3,290.5 ล้านบาท และเมื่อ
เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมลดลง 53.1%
หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าวข้างต้น ในไตรมาสที่ 1 ปี 2553 บริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น
13.4% และมีกำไรสุทธิเติบโต 11.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยผลการดำเนินงานที่ดี
ขึ้นนั้นมาจากรายได้จากโครงการใหม่และการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์จากการ
ปรับลดส่วนลดค่าเช่าพื้นที่ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว
แล้ว บริษัทฯ มีรายได้รวมลดลงเพียง 0.9% จากการโอนสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของโครงการเซ็นทรัล
พลาซา ปิ่นเกล้า ให้กับกองทุน CPNRF ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2552 ถึงกระนั้น กำไรสุทธิใน
ไตรมาสที่ 1 ปี 2553 ยังคงเพิ่มขึ้น 12.0% เนื่องจากในไตรมาสที่ 4 ปี 2552 มีค่าใช้จ่ายการ
โฆษณาและประชาสัมพันธ์ในช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่และมีค่าใช้จ่ายสำหรับการเปิดตัว
(Grand Opening)โครงการเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น
อนึ่ง ถือเป็นปกติธุรกิจที่ในระยะแรกของการเปิดให้บริการ ผลประกอบการจากโครงการใหม่จะต่ำ
กว่าโครงการที่เปิดให้บริการมาระยะหนึ่งแล้ว จากอัตราการเช่าพื้นที่ซึ่งยังไม่สูงมากนักและการให้
ส่วนลดค่าเช่าพื้นที่แก่ร้านค้าผู้เช่าเพื่อช่วยเหลือในช่วงแรกของการเปิดให้บริการศูนย์การค้า ในช่วง
ที่ภาวะเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นนี้ บริษัทฯ สามารถปรับลดส่วนลดค่าเช่าลงได้ในหลายโครงการ
ใหม่ รวมถึงโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ ในขณะที่โครงการอื่นๆที่เปิดให้บริการมาระยะหนึ่งแล้ว มีการ
ปรับขึ้นของอัตราค่าเช่าพื้นที่และค่าบริการเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความไม่สงบทาง
การเมืองที่ยืดเยื้อยังคงส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของประชาชน และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม
ต่อสถานการณ์ที่มิอาจคาดการณ์ได้ในอนาคต บริษัทฯ จึงได้ดำเนินมาตรการควบคุมต้นทุนและ
บริหารค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามความผันแปรของรายได้ รวมถึงได้ดำเนินการเพิ่มจำนวนร้านค้าในรูปแบบ
ของบูธและรถเข็นจำหน่ายสินค้า (carts และ kiosks) ในศูนย์การค้าเพื่อเป็นการเสริมรายได้ให้แก่
บริษัทฯ อีกทางหนึ่ง ทั้งหมดนี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระแสเงินสดของบริษัทอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่ง
เพียงพอต่อการหมุนเวียนในธุรกิจ และสามารถรองรับการลงทุนในโครงการระหว่างการพัฒนาได้
การพัฒนาโครงการใหม่
บริษัทฯ คาดการณ์การเปิดให้บริการโครงการศูนย์การค้าจำนวน 4 โครงการ ในปี 2553 - 2555
ดังนี้
- โรงแรมฮิลตัน พัทยา บีช ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช
- ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย
- ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 9
- ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่
การก่อสร้างโรงแรมฮิลตัน พัทยา บีช และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 9 มีความคืบหน้า
เป็นไปตามแผนงาน โดยมีกำหนดที่จะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ปี 2553 และไตรมาสที่ 4 ปี 2554
ตามลำดับ สำหรับอีก 2 โครงการนั้น บริษัทฯ ได้มีการเตรียมที่ดินไว้เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่
ระหว่างศึกษาโครงการในรายละเอียด
สำหรับโครงการในอนาคตดังกล่าวนี้จะอาศัยเงินทุนจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน รวมถึงการ
ระดมทุนผ่านการโอนสินทรัพย์ให้แก่ CPNRF และเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้ ด้วยฐานะทาง
การเงินที่แข็งแกร่งและการได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับ A+ บริษัทฯ จึงได้รับการสนับสนุน
สินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ ประกอบด้วย วงเงินกู้ยืมระยะสั้นจำนวน 4,000 ล้านบาท (ปัจจุบันยังไม่
มีการเบิกใช้) และวงเงินกู้ยืมระยะยาวโดยยังมีวงเงินกู้ยืมที่ยังไม่ได้เบิกใช้จำนวน 3,350 ล้านบาท
ผลการดำเนินงาน
ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2553 บริษัทฯ มีโครงการภายใต้การบริหารงาน 15 โครงการ (ในเขต
กรุงเทพฯ และปริมณฑล 9 โครงการ และ 6 โครงการในต่างจังหวัด) ประกอบด้วย โครงการ
ศูนย์การค้า 15 โครงการ (มีพื้นที่ค้าปลีกให้เช่ารวม 808,839 ตารางเมตร) อาคารสำนักงาน
6 โครงการ (มีพื้นที่ให้เช่ารวม 129,984 ตารางเมตร) อาคารที่พักอาศัย 2 โครงการ (มีจำนวน
62 ห้องชุด) และโรงแรม 1 โครงการ (มีห้องพักจำนวน 255 ห้อง) โดยพื้นที่ดังกล่าวไม่รวมพื้นที่ค้า
ปลีกให้เช่าในโครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2, เซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3, และเซ็นทรัล
พลาซา ปิ่นเกล้า จำนวน 157,589 ตารางเมตร และพื้นที่อาคารสำนักงานปิ่นเกล้า เอ และ บี
จำนวน 33,762 ตารางเมตร ซึ่งได้โอนไปยังกองทุน CPNRF แล้ว แต่ยังอยู่ภายใต้การบริหารของ
บริษัทฯ ในฐานะของผู้บริหารสินทรัพย์ของกองทุน
ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2553 อัตราการเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าของบริษัทฯ เฉลี่ยอยู่ที่ 95% ลดลงจาก
96% ในไตรมาสที่ผ่านมา โดยมีอัตราค่าเช่าพื้นที่เฉลี่ยอยู่ที่ 1,252 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
(ลดลง 1.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาสที่ผ่านมา) โดยเป็น
ผลมาจากการที่ศูนย์การค้าใหม่ของบริษัทส่วนใหญ่อยู่ในเขตต่างจังหวัด ซึ่งมีอัตราค่าเช่าพื้นที่ต่ำ
กว่าอัตราค่าเช่าพื้นที่เฉลี่ยเดิม ประกอบกับการให้ส่วนลดค่าเช่าพื้นที่แก่ผู้เช่าในศูนย์การค้าที่เปิด
ใหม่ซึ่งเป็นปกติธุรกิจในระยะแรกของการดำเนินงาน และเพื่อการเปรียบเทียบให้เห็นผลการ
เปลี่ยนแปลงของอัตราค่าเช่าพื้นที่อย่างชัดเจน หากไม่รวมอัตราค่าเช่าพื้นที่โครงการใหม่จำนวน
5 โครงการ ที่เปิดให้บริการในปี 2551 - 2552 อัตราค่าเช่าพื้นที่เฉลี่ยศูนย์การค้าของบริษัทฯ ใน
ไตรมาสที่ 1 ปี 2553 จะอยู่ที่ 1,329 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน เติบโต 3.2% จากไตรมาส
เดียวกันของปีก่อน และ 1.3% จากไตรมาสที่ผ่านมา
สำหรับอาคารสำนักงานของบริษัทฯ มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2553 อยู่ที่
82% ลดลง 86% จากไตรมาสที่ผ่านมา เป็นผลมาจากอัตราการเช่าพื้นที่ที่ลดลงของอาคาร
สำนักงาน ณ โครงการเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ซึ่งใกล้เข้าสู่การปิดให้บริการเพื่อทำการปรับปรุง
โครงการ สำหรับอัตราการเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานที่โครงการเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ ณ สิ้น
ไตรมาสที่ 1ปี 2553 อยู่ที่ 29% เพิ่มขึ้นจาก 26% ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ปี 2552 ทั้งนี้ ถือเป็นปกติ
ธุรกิจของโครงการอาคารสำนักงานซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ที่อัตราการเช่าพื้นที่จะขึ้นมาอยู่ที่
80% ดังนั้น อัตราการเช่าพื้นที่ของอาคารสำนักงาน ณ โครงการเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ ที่ยัง
อยู่ในระดับต่ำในระยะแรกของการเปิดให้บริการจึงถือเป็นปกติธุรกิจ โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถ
ปล่อยพื้นที่ให้เช่าส่วนที่เหลือของโครงการดังกล่าวได้ภายในปี 2554
ตารางที่ 1: สรุปพื้นที่ให้เช่าและอัตราการเช่าพื้นที่
ศูนย์การค้า พื้นที่ให้เช่า อัตราการเช่าพื้นที่ (%)
(ตร.ม.) ไตรมาส1/52 ไตรมาส4/52 ไตรมาส1/53
ลาดพร้าว 55,583 97% 97% 94%
รามอินทรา 17,159 99% 100% 99%
ปิ่นเกล้า 37,463 97% 98% 100%
พัทยา เซ็นเตอร์ 15,226 100% 98% 97%
รัชดา-พระราม3 18,192 99% 99% 99%
เชียงใหม่ 75,889 99% 99% 99%
บางนา 57,695 98% 98% 99%
พระราม2 5,937 100% 100% 100%
รัตนาธิเบศร์ 76,938 98% 99% 98%
เซ็นทรัลเวิลด์ 187,028 97% 96% 95%
แจ้งวัฒนะ 65,581 92% 91% 90%
พัทยา บีช เฟสติวัล 56,826 88% 89% 90%
อุดรธานี 49,452 n/a 98% 98%
ชลบุรี 40,409 n/a 92% 90%
ขอนแก่น 49,461 n/a 87% 91%
รวม 808,839 96% 96% 95%
หมายเหตุ:บางส่วนของโครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2, เซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3 และเซ็นทรัลพลาซา ปิ่น
เกล้า ได้ให้เช่าแก่ CPNRF
อาคารสำนักงาน พื้นที่ให้เช่า อัตราการเช่าพื้นที่ (%)
(ตร.ม.) ไตรมาส1/52 ไตรมาส4/52 ไตรมาส1/53
ลาดพร้าว 17,719 97% 96% 71%
บางนา 10,007 92% 95% 95%
เซ็นทรัลเวิลด์ 82,796 95% 95% 95%
แจ้งวัฒนะ 19,462 8% 26% 29%
รวม 129,984 84% 85% 82%
หมายเหตุ:อาคารสำนักงานปิ่นเกล้าทาวเวอร์ เอและบี ได้ให้เช่าแก่ CPNRF
สรุปผลการดำเนินงานทางการเงิน
รายได้รวม
รายได้จากค่าเช่าและบริการ
ไตรมาสที่ 1 ปี 2553 บริษัทฯ มีรายได้จากค่าเช่าและบริการจำนวน 2,734.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
11.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากการเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ คือ
เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี (เข้าซื้อกิจการในไตรมาสที่ 2 ปี 2552) เซ็นทรัลพลาซา ชลบุรี (เปิด
ให้บริการในไตรมาสที่ 2 ปี 2552) และเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น (เปิดให้บริการในไตรมาสที่ 4
ปี 2552) ประกอบกับอัตราค่าเช่าพื้นที่ซึ่งปรับขึ้นได้หในทุกโครงการ
เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน บริษัทฯ มีรายได้จากค่าเช่าและบริการเพิ่มขึ้น 5.0% เป็นผลมา
จากการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสของโครงการเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น และรายได้ที่เพิ่มขึ้นของ
โครงการเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช และโครงการเซ็นทรัลเวิลด์จากส่วนลดค่าเช่าพื้นที่ที่ลดลง
รายได้ค่าอาหารและเครื่องดื่ม
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2553 บริษัทฯ มีรายได้ค่าอาหารและเครื่องดื่มจำนวน 135.1 ล้านบาท ลดลง
8.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และ 12.8% จากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องด้วยภาวะตลาดที่
ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลง โดยผู้บริโภคนิยมการรับประทานอาหาร
และเครื่องดื่มในร้านอาหารมากขึ้น ประกอบกับจำนวนร้านอาหารและเครื่องดื่มในศูนย์การค้าที่
เพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากค่าเช่าและค่าบริการ
รายได้จากธุรกิจโรงแรม
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2553 บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจโรงแรมจำนวน 37.0 ล้านบาท โดยมีอัตราการ
เข้าพักอยู่ที่ 68% ไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาสที่ผ่านมา และรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักที่เข้าพัก
(RevPar) ไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาสที่ผ่านมา
รายได้อื่นๆ
รายได้อื่นประกอบด้วยค่าชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆที่เรียกเก็บคืนจากร้านค้า (Cost charged back)
อาทิ ภาษีโรงเรือน ค่าเบี้ยประกันภัย และต้นทุนการปรับปรุงพื้นที่ เป็นต้น รวมถึงรายได้สนับสนุน
จากธุรกิจคู่ค้าเพื่อจัดงานประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขาย (Sponsorship) และรายได้ที่มิได้
เกิดขึ้นเป็นประจำอื่นๆ
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2553 บริษัทฯ มีรายได้อื่นจำนวน 383.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141.0% จากไตรมาส
เดียวกันของปีก่อน และลดลง 90.9% จากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากผลการดำเนินงานไตรมาสที่
4 ปี 2552 รวมรายได้ที่มิได้เกิดขึ้นเป็นประจำ คือ 1) กำไรจากการทำสัญญาเช่าทางการเงิน
สินทรัพย์บางส่วนของโครงการเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า ให้แก่ CPNRF จำนวน 3,206.9 ล้านบาท
และ 2) รายได้อื่นจำนวน 659.0 ล้านบาท สำหรับในไตรมาสที่ 1 ปี 2553 ที่ผ่านมานี้ บริษัทฯ ได้
บันทึกรายการที่มิได้เกิดขึ้นเป็นประจำจากการที่บริษัทฯ ได้รับชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยจาก
ลูกหนี้ซึ่งบริษัทฯ ได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไว้แล้วจำนวน 162.6 ล้านบาท ส่งผลให้เกิด
การกลับรายการเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและบันทึกเป็นรายได้อื่นเต็มจำนวน สำหรับดอกเบี้ยที่ได้มา
พร้อมกันนี้ จำนวนเงิน 177.3 ล้านบาท บริษัทฯ ได้บันทึกเป็นดอกเบี้ยรับในผลการดำเนินงาน
ไตรมาสที่ 1 ปี 2553 (โปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุด
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2553 ข้อ 3)
ต้นทุนรวม
ต้นทุนรวม ได้แก่ ต้นทุนจากการให้เช่าพื้นที่และการให้บริการ ต้นทุนธุรกิจโรงแรม ต้นทุนอาหาร
และเครื่องดื่ม รวมถึงค่าสาธารณูปโภค ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่า
ค่าใช้จ่ายพนักงานผู้ปฎิบัติงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้เช่าและให้บริการพื้นที่โครงการ
ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาสินทรัพย์ให้เช่า และภาษีโรงเรือน
สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2553 บริษัทฯ มีต้นทุนรวม 1,746.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.1% จากไตรมาส
เดียวกันของปีก่อน จากต้นทุนการดำเนินงาน ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์โครงการ
ใหม่ ซึ่งได้กล่าวในข้างต้น และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ต้นทุนรวมลดลง 2.6% จาก
ต้นทุนการซ่อมแซมและบำรุงรักษาสินทรัพย์ที่ลดลง
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ได้แก่ ค่าใช้จ่ายของพนักงานส่วนกลางและผู้บริหาร ค่าโฆษณา
ประชาสัมพันธ์ ค่าเครื่องใช้สำนักงาน ค่าธรรมเนียมและค่าที่ปรึกษาต่างๆ และค่าเสื่อมราคาและค่า
ตัดจำหน่ายสำหรับอุปกรณ์สำนักงาน
สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2553 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเท่ากับ 459.7 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 11.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลหลักจากการเพิ่มจำนวนบุคลากรเพื่อ
สนับสนุนการขยายธุรกิจ และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ลดลง 40.2% เนื่องจากในไตรมาสที่ 4 ปี 2552 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของบริษัทฯ รวม
ค่าใช้จ่ายพิเศษจำนวนเงิน 100.0 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสนับสนุนการพัฒนาสวนสาธารณะในพื้นที่
บริเวณใกล้เคียงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หากไม่รวมเงินสนับสนุนดังกล่าวนี้ ค่าใช้จ่ายในการขาย
และบริหารในไตรมาสที่ 1 ปี 2553 จะลดลง 31.3% จากไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลหลักมาจาก
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2552 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการเปิดตัว (Grand Opening) ศูนย์การค้าเซ็นทรัล
พลาซา ขอนแก่น และมีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ในช่วงเฉลิมฉลองสิ้นปีซึ่งเป็น
ปกติตามช่วงเวลาของปี
กำไรสุทธิ
หากไม่รวมรายการที่มิได้เกิดขึ้นเป็นประจำดังกล่าว บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2553
เท่ากับ 670.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากผลกำไรของโครงการ
ใหม่และผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา
บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 12.0% เป็นผลจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ที่ลดลง ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น
ตารางที่ 2: สรุปข้อมูลทางการเงิน
งบการเงินรวม ไตรมาส 1 ไตรมาส 4/52 ไตรมาส 1 ไตรมาส 1/53 %เทียบ %เทียบ
(ล้านบาท) 2552 ปรับปรุง 2553 ปรับปรุง ปีก่อน ไตรมาสก่อน ไตรมาสก่อน
รายได้ 2,757.2 3,155.9 3,290.5 3,127.8 13.4% (0.9%)
ศูนย์การค้า 2,225.3 2,366.7 2,538.8 2,538.8 14.1% 7.3%
อาคารสำนักงาน 218.7 232.0 189.1 189.1 (13.5%) (18.5%)
โรงแรม 0.0 41.4 37.0 37.0 n/a (10.6%)
อาหารและเครื่องดื่ม 147.0 155.0 135.1 135.1 (8.1%) (12.8%)
ค่าเช่าและบริการอื่นๆ 7.1 6.3 7.0 7.0 (0.8%) 11.5%
รายได้อื่น 159.1 354.5 383.5 220.7 38.7% (37.7%)
ต้นทุน 1,517.5 1,793.8 1,746.3 1,746.3 15.1% (2.6%)
ศูนย์การค้า 1,248.6 1,498.6 1,484.2 1,484.2 18.9% (1.0%)
อาคารสำนักงาน 141.0 142.4 126.3 126.3 (10.4%) (11.3%)
โรงแรม 0.0 15.0 13.7 13.7 n/a (8.5%)
อาหารและเครื่องดื่ม 121.3 131.3 115.5 115.5 (4.8%) (12.0%)
ค่าเช่าและบริการอื่นๆ 6.5 6.6 6.6 6.6 2.0% (0.2%)
ดอกเบี้ยรับ 11.2 4.5 183.5 6.3 (44.0%) 39.1%
กำไรจากการดำเนินงาน 840.3 697.8 1,268.0 928.0 10.4% 33.0%
กำไรสุทธิ 603.2 598.5 950.8 670.0 11.1% 12.0%
กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (บาท) 0.28 0.27 0.44 0.31 11.1% 12.0%
โครงสร้างทางการเงิน
ณ 31 มีนาคม 2553 บริษัทฯ มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจำนวน 16,642.0 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
จาก ณ สิ้นปี 2552 โดยมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 13,557.1 ล้านบาท ลดลง 4.0% จาก
ณ สิ้นปี 2552 โดยหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยดังกล่าวนี้ ประกอบด้วยเงินกู้ยืมอัตราดอกเบี้ยคงที่ใน
สัดส่วน 68% และเงินกู้ยืมอัตราดอกเบี้ยลอยตัวในสัดส่วน 32% และมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระ
ดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net D/E) อยู่ที่ 0.7 เท่า ไม่เปลี่ยนแปลงจาก ณ สิ้นปี 2552
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2553 บริษัทฯ มีต้นทุนทางการเงินรวม 168.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9% จาก
ไตรมาสที่ผ่านมา และลดลง 11.9% จากไตรมาสก่อน โดยมีอัตราดอกเบี้ยถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักอยู่ที่
4.4% ต่อปี เทียบกับ ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2552 และ ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ 4.8%
ต่อปี และ 4.4% ต่อปี ตามลำดับ
ตารางที่ 3: สรุปฐานะทางการเงิน
งบดุล ไตรมาส 1 ไตรมาส 4 ไตรมาส 1 % เทียบ % เทียบ
(ล้านบาท) 2552 2552 2553 ปีก่อน ไตรมาสก่อน
สินทรัพย์รวม 46,360.7 50,895.4 51,540.2 11.2% 1.3%
สินทรัพย์หมุนเวียน 4,487.5 3,937.2 4,609.2 2.7% 17.1%
ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 33,138.0 38,433.5 38,405.9 15.9% (0.1%)
สิทธิการเช่า 5,274.5 4,443.1 4,248.8 (19.4%) (4.4%)
หนี้สินรวม 30,586.7 31,887.3 31,577.9 3.2% (1.0%)
หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่าย 16,160.0 16,669.4 16,642.0 3.0% (0.2%)
ส่วนของผู้ถือหุ้น 15,774.0 19,008.1 19,962.3 26.6% 5.0%
กำไรสะสม 10,910.4 14,539.8 15,490.7 42.0% 6.5%
ตารางที่ 4: อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ
อัตราส่วนทางการเงิน ไตรมาส 1 ไตรมาส 4 ไตรมาส 1
2552 2552 2553
อัตราส่วนสภาพคล่อง
อัตราส่วนสภาพคล่อง (เท่า) 0.5 0.6 0.7
อัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็ว (เท่า) 0.4 0.4 0.5
ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย (วัน) 17.8 11.9 12.4
อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไร
อัตรากำไรขั้นต้น (%) 45.0% 43.2% 44.2%
อัตรากำไรสุทธิ (%) 21.1% 17.8% 20.6%
อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (%) 16.3% 14.0% 14.0%
อัตราส่วนประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (%) 5.4% 4.8% 5.2%
อัตราส่วนวิเคราะห์นโยบายทางการเงิน
อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า) 0.8 0.7 0.7
อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA (เท่า) 2.5 2.7 2.5
อัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย/1 8.1 8.6 6.2
(เท่า)
หมายเหตุ: /1 กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ไม่รวมเงินสดที่ชำระเจ้าหนี้ตั๋วอาวัลซึ่งครบกำหนด